ความสัมพันธ์ระหว่างผลตอบแทนจาการลงทุนกับลักษณะโครงสร้างของกิจการที่มีโครงสร้างการถือหุ้นแบบครอบครัว ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET100) =The relationship of stock return and family firm concentrated ownership structure of SET100

Abstract

วัตถุประสงค์ของงานวิจัยฉบับนี้เพื่อทำการศึกษาถึงผลกระทบจากลักษณะโครงสร้างของบริษัทจดทะเบียนที่มีลักษณะโครงสร้างแบบครอบครัวกับบริษัทที่ไม่ได้มีโครงสร้างการถือหุ้นลักษณะครอบครัวต่อผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ดังกล่าว ว่าให้ผลกระทบที่เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ โดยรวบรวมตัวแปรจากทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ทฤษฎีตัวแทน, ทฤษฎีประสิทธิภาพตลาด และแบบจำลองแบบพหุตัวแปร โดยการศึกษานี้ให้ความสำคัญกับตัวแปรที่เป็นตัวแทนของโครงสร้างการถือหุ้นของกิจการมากที่สุด ซึ่งการศึกษาดังกล่าวได้มีการใช้เทคนิค Fixed effects model และ Random effects model ในการศึกษาบริษัทที่อยู่และเคยอยู่ในการคำนวณดัชนี SET100 ระหว่างปี พ.ศ. 2553-2561 จำนวนทั้งหมด 153 บริษัทที่เกี่ยวข้อง โดยไม่รวมธุรกิจในหมวดฟื้นฟู และธุรกิจในหมวดการเงินธนาคาร จากผลการศึกษาพบว่า บริษัทที่มีโครงสร้างการถือหุ้นลักษณะครอบครัวให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นมากกว่าบริษัทที่ไม่มีโครงสร้างการถือหุ้นลักษณะครอบครัวโดยประมาณ 0.34% ต่อเดือนหรือ 4.16% ต่อปี โดยผลการวิจัยดังกล่าวผู้วิจัยได้ใช้วิธีการทดสอบทั้งแบบ Fixed effect model และ Random effect model ซึ่งผลที่ได้รับมีนัยสำคัญที่ระดับ 5 % ทั้งสองวิธีการทดสอบ นอกจากนี้สำหรับตัวแปรที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ พบว่า ขนาดของกิจการ ความผันผวนของหลักทรัพย์ อัตราส่วนของผู้ถือหุ้นมูลค่าทางบัญชีต่อมูลค่าตลาด สภาพคล่องของสินทรัพย์ อัตราส่วนความสามารถในการทำกำไรจากดำเนินงาน อัตราการก่อหนี้ของกิจการ อัตราส่วนยอดขายต่อสินทรัพย์ และ อัตราการเติบโตของยอดขาย เป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่อผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น