Please use this identifier to cite or link to this item: https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/3622
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
eperson.contributor.advisorพัลลภา ปีติสันต์-
dc.contributor.authorวิษณุ ตันติวิท-
dc.date.accessioned2021-03-23T10:50:00Z-
dc.date.available2021-03-23T10:50:00Z-
dc.date.issued2020-11-14-
dc.identifierTP BM.015 2563-
dc.identifier.citation2563-
dc.identifier.urihttps://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/3622-
dc.description.abstractการเติบโตของธุรกิจโรงพยาบาลและสถานบริการพยาบาล ส่วนหนึ่งมาจากจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการรับบริการทางการแพทย์ที่มีมาตรฐานและได้รับความสะดวกสบายในการใช้บริการ จากการวิเคราะห์สถานการณ์ พบว่า ความต้องการของผลิตภัณฑ์และการบริการทางการแพทย์มากขึ้น การมีประชากรสูงอายุที่ต้องการการดูแลรักษาพยาบาลเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งคุณภาพของสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานและราคาค่ารักษาของไทยที่ถูกกว่าต่างชาติ จึงเป็นที่ดึงดูดผู้ป่วยชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตามโรงพยาบาลและสถานบริการพยาบาล มีอัตราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจมีการแข่งขันสูง ผู้ศึกษาวิจัยจึงต้องมีประสบการณ์คุ้นเคยในวิชาชีพด้านนี้เพื่อเข้ามาร่วมงาน เข้ามาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการจริงของผู้ใช้งาน ผู้ซื้อ และ influencer สามารถปิดช่องว่างระหว่างความคาดหวังกับสิ่งที่ได้รับของลูกค้าได้ จึงทำการวิจัยและพัฒนาพลาสเตอร์แบบใหม่ในการใส่ตัวยาลดการช้ำ การอักเสบ บวม หลังการเจาะเลือด เสริมเข้าไปได้ในเส้นใยผ้า plaster แบบใหม่นี้ เพื่อสร้างความปลอดภัย ปลอดเชื้อ ความสะดวกสบายความสบายใจ และมั่นใจมากขึ้นกับทั้งพนักงานเจาะเลือดและผู้รับการเจาะเลือด การวิจัยนี้จึงได้ศึกษาการไปสัมภาษณ์กลุ่มพนักงานเจาะเลือดที่อยู่กับงานการเจาะเลือดทุกวันในโรงพยาบาล และหัวหน้าแผนกการเจาะเลือด ลงไปเจาะลึกและการศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจแล้ว เพื่อศึกษาพฤติกรรมและปัจจัยของผู้บริโภคในการตัดสินใจใช้พลาสเตอร์ยาแบบใหม่ และนำข้อมูลที่ได้ไปเป็นแนวทางการทำแผนธุรกิจพลาสเตอร์ยาแบบใหม่ โดยตั้งชื่อว่า “The New PlasTor” และนำไปสู่การผลิตสู่ตลาดจริง เนื่องจากผู้วิจัยมีความสนใจในธุรกิจการให้บริการด้านสุขภาพซึ่งผู้วิจัยทำงานเกี่ยวข้องในวิชาชีพนี้ การติด plaster หลังเจาะเลือดในปัจจุบันตามโรงพยาบาลต่างๆ มีเพียงการนำ Counterpain cool หรือ Reparil- gel n ทาหลังจากการเจาะเลือดเท่านั้น การเปิดแผลหลังกดห้ามเลือดแล้ว และทายาลงบนแผลและรอบรอยเจาะเลือด หรือคนไข้กลับไปประคบเย็นเองที่บ้านภายหลังการเขียวช้า ซึ่งการกลับไปประคบเย็นเองหรือทายาเองภายหลังอาจจะทาให้การช้าหายช้ากว่าเมื่อไม่ทาหลังการเจาะเลือด ผู้เจาะเลือดและผู้รับบริการเจาะเลือดมีความกังวลใจหลังการเจาะเลือดเนื่องจากไม่แน่ใจว่าไหนที่เจาะไปแล้วจะเกิดอาการเขียวช้ารุนแรงหลังจากผู้ป่วยกลับบ้าน การทายา Reparil gel n ลงไปอีกทีหลังเจาะ จึงเป็นความยุ่งยากเสียเวลาและอาจไม่ถูกหลักความปลอดภัยและอาจมีการติดเชื้อได้จากการที่ bacteria ต่างๆปนเปื้อนได้ ในปัจจุบันธุรกิจโรงพยาบาล ถือเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูง ผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัวและเตรียมพร้อมเพื่อรักษาลูกค้ากลุ่มเดิมไว้ และเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ในระยะยาว-
dc.publisherมหาวิทยาลัยมหิดล-
dc.subjectการจัดการธุรกิจ-
dc.subjectแผนธุรกิจ-
dc.subjectการเจาะเลือด-
dc.subjectพลาสเตอร์-
dc.titleแผนธุรกิจพลาสเตอร์แบบใหม่ลดการเขียวบวมช้าหลังการเจาะเลือด-
dc.typeThematic Paper-
Appears in Collections:Thematic Paper

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
TP BM.015 2563.pdf1.51 MBAdobe PDFThumbnail
View/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.