Please use this identifier to cite or link to this item: https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/4203
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
eperson.contributor.advisorกิตติชัย ราชมหา-
dc.contributor.authorธัญญารัตน์, คำมา-
dc.date.accessioned2021-12-13T02:28:54Z-
dc.date.available2021-12-13T02:28:54Z-
dc.date.issued2021-10-24-
dc.identifier.otherTP FB.004 2564-
dc.identifier.urihttps://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/4203-
dc.description107 แผ่นen_US
dc.description.abstract“ขยะอาหาร” กําลังเป็นหนึ่งในปัญหาที่หลายประเทศทั่วโลก รวมไปถึงองค์กรระหว่าง ประเทศหันมาให้ความสําคัญ เนื่องจากการเน่าเสียของขยะอาหารปล่อยก๊าซเรือนกระจกปล่อยสู่ชั้น บรรยากาศ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทําให้โลกร้อนมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 25 เท่า และในแต่ละปีจะมีขยะอาหารที่ต้องถูกฝังกลบมากกว่าหนึ่งพันล้านตัน แต่ในทางกลับกันยังคงมีจํานวน ประชากรทั่วโลกที่ไม่สามารถเข้าถึงอาหารได้ตามความต้องการของร่างกาย เนื่องจากข้อจํากัดทางด้าน สภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่และอีกหลายเหตุผลประกอบกัน ส่งผลให้ต้องเผชิญกับความหิวโหย มากกว่า 870 ล้านคน ซึ่งประชากรเกินกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงอาหารได้นั้นอาศัยอยู่ใน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หนึ่งในนั้นคือประเทศไทยด้วยเช่นกันที่ไม่มีอาหารเพียงพอ ปัจจุบันข้อมูลของของกรมควบคุมมลพิษพบว่า ขยะอาหารในประเทศไทยคิดเป็น 64% ของขยะทั้งหมด โดยในจังหวัด กรุงเทพมหานคร มีการรีไซเคิลขยะอาหารเพียงแค่ 2% เท่านั้น ที่เหลือจะนําไปกําจัดโดยวิธีการฝังกลบ รวมที่ไม่มีระบบการจัดการแบบถูกสุขาภิบาล ทําให้จังหวัดกรุงเทพมหานครมีปริมาณขยะมากเป็น อันดับ 4 จาก 22 เมืองใหญ่ในทวีปเอเชีย จากปัญหาขยะอาหารที่กล่าวมาข้างต้น ธุรกิจของครอบครัวผู้ศึกษาถือว่ามีส่วนที่ทําให้ เกิดขยะอาหาร เนื่องจากครอบครัวของผู้ศึกษาได้จัดจําหน่ายผักสด ผลไม้และอาหารสด ซึ่งส่วนใหญ่ พบว่าแต่ละล๊อตของสินค้าจะพบสินค้าที่ตกสเปค อย่างเช่น ดอกกะหลํ่าขาว มีรอยดํา รอยชํ้าหรือเน่า เพียงบางส่วนของหัวดอกกะหล่ำขาว ก็ไม่สามารถจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้และนําไปทิ้งขยะ ทําให้เกิดต้นทุนขายค่อนข้างสูง คิดเป็น 5-10 % ต่อล็อตที่นําเข้าสินค้า ผู้ศึกษาจึงทําการค้นคว้างานวิจัยและ ประโยชน์ของดอกกะหล่ำขาว เพื่อจะนำมาแปรรูปสินค้า นำต้นทุนขายที่เสียไปจากสินค้าที่ตกสเปคเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจของครอบครัวผู้ศึกษา จึงออกมาเป็นแผนธุรกิจขนมบราวนี่จาก Surplus Food ดอกกะหล่ำทดแทนแป้ง จากการลงทุนในแผนธุรกิจโดยมีมูลค่าการลงทุนที7 1,500,000 บาท สามารถสร้างมูลค่า ปัจจุบันสุทธิของโครงการ (NPV) ได้ 9,097,280.95 บาท มีอัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) ที7 89% และ มีระยะเวลาคืนทุนประมาณ 2 ปี 9 เดือน ซึ่งคิดจากการลงทุนในโครงการ 5 ปี แสดงให้เห็นถึงความ เป็นไปได้ในการลงทุนในแผนธุรกิจนี่ พร้อมกับเพิ่มความหลายหลายของขนมเพื่อสุขภาพในตลาดอีกด้วยen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยมหิดลen_US
dc.subjectการจัดการธุรกิจอาหารen_US
dc.subjectดอกกะหล่ำen_US
dc.subjectบราวนีen_US
dc.subjectขนมเพื่อสุขภาพen_US
dc.subjectSurplus Fooden_US
dc.subjectขยะอาหารen_US
dc.titleแผนธุรกิจผลิตภัณฑ์ขนมบราวนี่จาก Surplus Food ดอกกะหล่ำแทนแป้งen_US
dc.title.alternativeBUSINESS PLAN FORBROWNIE FROM SURPLUS CUALIFLOWER SUBSTITUTING FOR FLOURen_US
dc.typeThesisen_US
Appears in Collections:Thematic Paper

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
TP FB.004 2564.pdf8.23 MBAdobe PDFThumbnail
View/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.