การศึกษาการตั้งราคาเสนอขายหลักทรัพย์ต่ำกว่ามูลค่าในตลาดรองวันแรกและการศึกษาการตั้งราคาเสนอขายหลักทรัพย์ต่ำกว่ามูลค่าในตลาดรองวันที 10

Abstract

งานวิจัยนี้ศึกษาวิธีการประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ของผู้จัดจ่าหน่าย (Underwriter) และศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดราคาเสนอขายหลักทรัพย์แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรกหรือ Initial Public Offering (IPO) ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยรวบรวมข้อมูลตัวแปรจากทฤษฎีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น สินทรัพย์รวมของบริษัท, ชื่อเสียงของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์, สัดส่วนของหุ้นเพิ่มทุนที่ออกจำหน่ายต่อจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทก่อนยื่นเสนอขาย, สัดส่วนการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมต่อจ่านวนหุ้นทั้งหมด, อัตราก่าไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี, อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น, และผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ณ ขณะนั้น เป็นต้น การศึกษาวิจัยนี้ได้ท่าการเก็บรวบรวมข้อมูลจากบริษัทที่ได้ท่าการเสนอขายหลักทรัพย์ และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จ่านวน 242 บริษัท นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 ถึงปี 2020 โดยน่าปัจจัยต่าง ๆ มาศึกษาโดยใช้วิธีการวิเคราะห์การถดถอยแบบ OLS Regression โดยเริ่มจากการประมาณมูลค่าหุ้นขึ้นมาโดยวิธีต่าง ๆ และน่าไปทดสอบหาการประมาณมูลค่าหุ้นคลาดเคลื่อน (ERROR) และส่วนลดในการจ่าหน่าย (DISCOUNT) พบว่าปัจจัยที่ส่งผลคือ สัดส่วนของหุ้นเพิ่มทุน (IPO_RATIO) และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) และเมื่อผู้จัดจ่าหน่ายหลักทรัพย์ก่าหนดราคาเสนอขาย (IPO Price) แล้วจึงท่าการทดสอบการตั้งราคาต่่ากว่ามูลค่าของการซื้อขายวันแรกและวันที่ 10 (UNDERPRICE) พบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อการจ่าหน่ายต่่ากว่ามูลค่าได้แก่ สินทรัพย์รวม (LNASSET), ชื่อเสียงของผู้จัดจ่าหน่ายหลักทรัพย์ (UW), ผลตอบแทนของตลาด (PREOPEN_RE) และส่วนเบี่ยงเบนของผลตอบแทนตลาด (PREOPEN_SD)