แผนธุรกิจ E-commerce สำหรับสินค้าอุตสาหกรรม

Abstract

เนื่องจากโลกปัจจุบัน เป็นโลกที่มีความผันผวนสูงมาก (VUCA World) เช่น โควิค 2019 ปัญหาของแพง การมาของ Digital Disruption ฯลฯ ดังนั้นทางผู้วิจัยเองจึงคิดขยายธุรกิจครอบครัวให้เป็นรูปแบบ E-Commerce ซึ่งธุรกิจของผู้วิจัยชื่อว่า เอ็ม ซี รับเบอร์ เป็นธุรกิจในการจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับงานอุตสาหกรรม ทั้งยานยนต์และการผลิต เช่น ท่อส่งต่างๆ ทั้ง สารเคมี นํ้า นํ้ามัน ปูน ฯลฯ หรือ ประเก็นยาง สายพาน ซีลกระดูกงู เป็นต้น จากการที่ปัจจุบันโลกที่มีความไม่แน่นอนทางผู้วิจัยจึงคิดขยายธุรกิจในรูปแบบ E-Commerce เพื่อที่จะขยายฐานลูกค้าจากเดิมที่เน้นคนในพื้นที่ ซึ่งทางผู้วิจัยอาศัยในย่านบางเขนของกรุงเทพมหานคร ไปสู่การขยายไปทั่วประเทศไทย และในระยะยาวคิดว่าจะขยายไปต่างประเทศ โดยผู้วิจัยจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา ชื่อว่า บริษัท เอ็ม แอนด์ ดี จำกัด โดยที่ทำเป็นรูปแบบ E-Commerce เพราะว่า ทางผู้วิจัยให้ความสำคัญกับข้อมูล ซึ่งบริษัทใหญ่ๆ มองข้อมูลเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่ง โดยรูปแบบการทำธุรกิจแบบ E-Commerce นี้จะทำให้ผู้วิจัยสามารถเก็บข้อมูลต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น และนอกจากนี้การทำธุรกิจแบบ E-Commerce ยังนำข้อมูลต่างๆ มาทำนายอนาคตได้ดีขึ้น และสามารถปรับตัวกับการขายในอนาคตได้ เช่น ปรับเปลี่ยนสินค้าจากพลังานเดิมไปสู่รูปแบบพลังงานสะอาดเป็นต้น และสามารถทำการแสดงสินค้าได้เพิ่มมากขึ้นมากกว่าหน้าร้านนอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้าผ่านการใช้ UX/UI ได้ด้วย โดยกลุ่มกลุ่มเป้าหมายเดิมของ เอ็ม ซี รับเบอร์ คือ ช่าง และโรงงานที่อยู่บริเวณ บางเขน และ บริษัท เอ็ม แอนด์ ดี จำกัดจะขยายฐานลูกค้าเป็น บริษัทที่เกี่ยวกับขนส่งและโลจิสติกส์ และโรงงานผลิต ซึ่งจากกาศึกษาขนาดตลาดของ 2 กลุ่มนี้จากแหล่งค้นหาข้อมูลนิติบุคคล และประเภทธุรกิจในประเทศไทย หรือ DBD พบว่าในประเทศไทยมีธุรกิจประเภท ขนส่งอยู่ 60,726 กิจการ และ ธุรกิจประเภทโรงงาน 32,575 กิจการ ที่ยังคงเปิดกิจการอยู่ และในกลุ่มเป้าหมายรองมองเป็นช่างในประเทศไทย มีจำนวน 15,497 ที่ยังคงเปิดกิจการอยู่ ตามลำดับทางด้านทีมงานของผู้วิจัยแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ 1. ความชำนาญทางด้านผลิตภัณฑ์สินค้า จะดูแลทางด้านการขายและคลังสินค้า และข้อมูลข้อผลิตภัณฑ์ โดยทางผู้วิจัยได้ขอคุยกับทาง เอ็ม ซี รับเบอร์ เกี่ยวกับการวางผังสินค้า ความรู้ผลิตภัณฑ์ 2. ทางข้อมูลทางด้านนี้จะดูแลทางด้าน E-Commerce เช่น การออกแบบเว็บไซต์ UX/UI การทำการตลาด ระบบฐานข้อมูล เป็นต้น ซึ่งทางด้านนี้ผู้วิจัยได้มีทีมงานจาก ญาติ พี่น้อง ที่เรียนทางด้านวิทยาศาตร์ข้อมูลมา ซึ่งทั้ง 2 ทางนี้จะเป็นจุดเด่นในของธุรกิจ และบริษัท เอ็ม แอนด์ ดี จำกัด คาดว่าจะใช้เงินลงทุนจำนวนประมาณ 4,030,000 บาท จากการระดมทุน ขอสนับสนุนจากรัฐบาล และกู้จากสถาบันทางการเงินจำนวน แล้วคาดว่า จะมียอดขายในปีแรก 8,420,000 บาท และมีการเติบโต ใน 5 ปี ข้างหน้า มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 2,938,000 บาท จากระยะเวลา โครงการ 5 ปี อัตราผลตอบแทนการลงทุน (IRR) ร้อยละ 45 สามารถคืนทุนได้ในระยะเวลา 4 ปี มีมูลค่าโครงการปัจจุบันสุทธิ (NPV) เท่ากับ 2,977,400 บาท