การศึกษาความเป็นไปได้ทางการเงินของธุรกิจของเล่นไม้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์พร้อมคู่มือของเด็กปฐมวัย 3-5ปี "Dr.Math & Toys"

Abstract

เนื่องจากธุรกิจของครอบครัวคือ สำนักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำกัด เป็นบริษัทที่ผลิตสื่อการเรียนการสอน เช่น หนังสือเรียน ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ และแบบฝึกหัด ที่ใช้ประกอบการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ และตรงตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่ระดับอนุบาลศึกษา ประถมศึกษา ถึงระดับมัธยมศึกษา ที่ได้รับความเชื่อถือ และได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั้งโรงเรียนของรัฐบาล และเอกชนทั่วประเทศมายาวนานกว่า 30 ปี และเพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจด้านการศึกษาในการผลิตสื่อการเรียนการสอนที่มีคุณภาพและครบวงจร ซึ่งจะส่งผลไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาและมาตรฐานการศึกษารวมทั้งการเพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ของเยาวชนไทยให้มีโอกาสได้เข้าถึงสื่อการเรียนรู้ทุกรูปแบบทั้งในและนอกห้องเรียนตามวัยและพัฒนาการของผู้เรียนอย่างมีคุณภาพ และเต็มศักยภาพตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน อีกทั้งยังมีบริษัทในเครือบริษัทแม่อีก 2 บริษัท คือ บริษัท คิดส์แอนด์ทอยส์อินดัสตรี้ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานที่ผลิตของเล่นไม้ รวมถึงผลิตสื่อการเรียนการสอนที่ทำจากวัสดุประเภทไม้ยางพาราส่งออกไปยังต่างประเทศมานานกว่า 20 ปี และ บริษัท สำนักพิมพ์ เวิลด์คิดส์ จำกัด เป็นบริษัทที่ทำการผลิตสื่ออิเล็กทรอนิกส์สำหรับใช้ประกอบการศึกษาทุกระดับชั้น ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ตั้งแต่ระดับอนุบาลศึกษา ประถมศึกษา และมัธยมศึกษาที่เน้นทักษะกระบวนการคิดเน้นความสอดคล้องกับพัฒนาการของผู้เรียนครบทุกด้านตรงตามมาตรฐานและหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ จากปัญหาที่พบในปัจจุบัน คือ ผลการประเมินการทดสอบ Programmer for International Student Assessment (PISA) ทั้งด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการอ่าน ในปี พ.ศ. 2552 พบว่าเด็กไทยมีผลการประเมินต่ำกว่าค่าเฉลี่ยนานาชาติทุกวิชาจัดอยู่ในอันดับที่ประมาณ 48 - 52 จาก 65 ประเทศและห่างไกลจากประเทศเอเชียอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มคะแนนสูงนักเรียนไทยเกินครึ่ง รู้เรื่องคณิตศาสตร์ต่ำกว่าระดับพื้นฐาน และที่รู้เรื่องสูงกว่าระดับพื้นฐานมีเพียงหนึ่งในห้าเท่านั้น ผลการประเมินดังกล่าวใกล้เคียงกับผลในปีพ.ศ. 2549 แต่มีแนวโน้มต่ำลงตั้งแต่ปีพ.ศ. 2546 เป็นต้นมา และปัญหาในปัจจุบันด้านเทคโนโลยีที่มีผลกระทบเชิงลบต่อพัฒนาการทางสมองเด็ก มีงานวิจัยจำนวนมากที่ไม่สนับสนุนให้เด็กอยู่กับเทคโนโลยีมากเกินไปอย่างน้อยในวัยที่ต่ำกว่า 15 ปี เนื่องจากพฤติกรรมการนั่งจ้องหน้าจอเป็นเวลานานๆ ไม่ส่งผลดีต่อสายตาของเด็ก และตาถือเป็นอวัยวะเดียวกับสมอง การอยู่กับเทคโนโลยีมากทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ เพราะการเก็บสายตาให้ล็อคไว้ในที่แคบๆ เช่น จอของแท็บเล็ต หน้าจอของมือถือ ไอโฟน หรือหน้าจอของโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ เป็นพื้นที่ที่แคบเกินไปสำหรับการใช้ตาของมนุษย์ ซึ่งในระยะยาว ส่งผลถึงการผิดปกติต่างๆ ของสมอง ข้อมูลดังกล่าวเป็นยังเป็นตัวที่บ่งชี้เรื่องการเรียนการสอนด้วยวิธีใดถึงจะทำให้เด็กมีการรับรู้เป็นไปตามลำดับขั้นของการเรียนรู้ในแต่ละพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย การที่เด็กนักเรียนไทยได้คะแนนสอบที่ต่ำลงนั้นเป็นผลลัพธ์ที่แสดงออกมาที่ปลายเหตุ แต่ความจริงนั้นควรแก้ที่ต้นเหตุของปัญหานั้นคือการวางรากฐานของการเรียนรู้ตั้งแต่เด็กปฐมวัย เพราะช่วงวัยนี้เป็นเวลาสำคัญที่สุดของการพัฒนาเซลล์สมอง ลำดับความคิด และยังพบอีกด้วยว่ามีปัญหาด้านวิชาการตั้งแต่เริ่มเข้าเรียน เพราะคุณครูผู้สอนไม่มีแนวทางการสอนที่ถูกต้องตามทฤษฎีต่างๆที่เข้าถึงการพัฒนาการ, การเรียนรู้, จิตวิทยาของเด็กในแต่ละวัยอย่างแท้จริง เช่น ทฤษฎีของเพียงเจต์ (Piaget) ทฤษฏีรุนเนอร์ (Bruner) ทฤษฎีไวก็อตสกี้ (Vygotsky) เป็นต้น จุดแข็งของบริษัท Dr.Math & Toys ตั้งอยู่ที่ 701 ถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 คือ มีบริษัทแม่ที่เป็น สำนักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำกัด ที่ทำหนังสือเรียนใช้ประกอบการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ และตรงตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่ระดับอนุบาลศึกษา ประถมศึกษา ถึงระดับมัธยมศึกษา ที่ได้รับความเชื่อถือ และได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั้งโรงเรียนของรัฐบาลและเอกชนทั่วประเทศมานานกว่า 30 ปี อีกทั้งยังมีบริษัทในเครือบริษัทแม่อีก 2 บริษัท คือ บริษัท คิดส์แอนด์ทอยส์อินดัสตรี้ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานที่ผลิตของเล่นไม้ รวมถึงผลิตสื่อการเรียนการสอนที่ทำจากวัสดุประเภทไม้ยางพาราส่งออกไปยังต่างประเทศมานานกว่า 20 ปี และ บริษัท สำนักพิมพ์ เวิลด์คิดส์ จำกัด เป็นบริษัทที่ทำการผลิตสื่ออิเล็กทรอนิกส์สำหรับใช้ประกอบการศึกษาทุกระดับชั้น ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ตั้งแต่ระดับอนุบาลศึกษา ประถมศึกษา และมัธยมศึกษาที่เน้นทักษะกระบวนการคิดเน้นความสอดคล้องกับพัฒนาการของผู้เรียนครบทุกด้านตรงตามมาตรฐานและหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงทางบริษัท Dr.Math & Toys ยังมีกลยุทธ์ในด้านต่างๆในการเข้าสู่ตลาดเพื่อมาใช้ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามแผนธุรกิจ คือ ในด้านสินค้า คือ ของเล่นไม้ที่มีคู่มือ/วิธีการเล่นที่ถูกต้องของเด็กกลุ่มปฐมวัยอายุ 3-5 ปี และมีความเหมาะสมกับวัย ของเล่นที่มีความหลากหลายให้เลือกและเล่น ในการพัฒนาทักษะสามารถพัฒนาให้กับเด็กได้หลากหลายทักษะ ของเล่นที่ผลิตขึ้นมีความแข็งแรง คงทน เพื่อให้สามารถใช้ได้ระยะเวลาที่นาน และที่สำคัญคือ มีความปลอดภัยสำหรับเด็ก ในด้านการตลาดจะขายสินค้าที่ราคาไม่แพง และมีการจัดโปรโมชั่น เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้า เช่น การลดราคา สะสมแต้ม มอบส่วนลด ให้ของแถม เป็นต้น โดยทางบริษัท Dr.Math & Toys จะวางขายตามห้างสรรพสินค้า ออกบูท เพื่อให้มีความง่าย สะดวกในการเลือกซื้อของเล่นและเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยธุรกิจนี้จะใช้เงินลงทุน 4,230,800 บาท ซึ่งมาจากเงินลงทุนของผู้ก่อตั้งทั้งหมด โดยคาดว่าจะมีระยะเวลาคืนทุน 1ปี 1เดือน มีจุดคุ้มทุนที่ระดับ 1,260,435 บาทต่อเดือนหรือ 323 ชุดต่อเดือน มูลค่าปัจจุบันสุทธิของการลงทุนเท่ากับ 61,760,673 บาท และอัตราผลตอบแทน (IRR) ของการลงทุนเท่ากับ 198.49 %