Please use this identifier to cite or link to this item: https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/1203
Title: การศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าสู่ตลาดของแผนธุรกิจกางเกงชั้นในปกปิดอวัยวะเพศสำหรับสาวประเภทสอง Eve's
Authors: อาทิตยา อาศิรวาท
Keywords: ภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรม
แผนธุรกิจ
กางเกงชั้นใน
สาวประเภทสอง
Eve's
Issue Date: 16-Mar-2015
Publisher: มหาวิทยาลัยมหิดล
Citation: 2558
Abstract: จากการสังเกตดูวิถีชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน สิ่งที่ทุกคนคงจะสัมผัสได้คือความหลากหลายทางสังคมที่มีมากขึ้น ไม่ว่าจะด้วยความคิด วัฒนธรรม ภาษา การแต่งกาย รวมถึงรสนิยมทางเพศซึ่งเห็นได้ชัดว่าสังคมไทยไม่ได้มีเพียงผู้ชาย ผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังมีเพศทางเลือกอื่นๆ ปะปนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชายรักชาย เช่น เกย์ สาวประเภทสอง (กะเทย) หรือกลุ่มหญิงรักหญิง เช่น ทอม ดี้ เป็นต้น และเนื่องจากในปัจจุบันสังคมไทยมีการยอมรับบุคคลเพศที่สามกันมากขึ้น ส่งผลให้บุคคลเหล่านี้มีความกล้าที่จะเปิดเผยตัวตนและแสดงออกอย่างอิสระ ทางบริษัท อีฟส์ จำกัด จึงมีความสนใจในพฤติกรรมและวิธีการใช้ชีวิตของกลุ่มสาวประเภทสองหรือกะเทยเป็นพิเศษ เนื่องจากพบว่าเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมาก อีกทั้งหุ้นส่วนของบริษัทฯ เองมีเพื่อนที่มีรสนิยมทางเพศลักษณะนี้ จึงเอื้อต่อการศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มสาวประเภทสองอย่างใกล้ชิด โดยในปัจจุบันการแก้ปัญหาเรื่องการปกปิดอวัยวะเพศของสาวประเภทสอง มีหลายวิธี เช่น สวมกางเกงชั้นในสองชั้น สวมใส่กางเกงชั้นในรัดหน้าท้อง (สเตย์) ใช้เทปพันรัดบริเวณเป้า หรือใช้ผ้าอนามัยปิดบังบริเวณเป้ากางเกงใน เป็นต้น เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีกางเกงชั้นในหรืออุปกรณ์ใดๆ สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้มาก่อน ซึ่งวิธีการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต อาทิ รู้สึกอึดอัด เจ็บปวด หงุดหงิด ใช้เวลานานในการปกปิดอวัยวะเพศ เป็นต้น ด้วยเหตุนี้เอง จึงเป็นจุดเริ่มต้นของแผนธุรกิจ Eve’s ผลิตภัณฑ์กางเกงชั้นในปกปิดอวัยะเพศสำหรับสาวประเภทสอง ซึ่งช่วยทำให้การปกปิดอวัยวะเพศของสาวประเภทสองมีความเรียบเนียน สะดวก สบาย จากการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของสาวประเภทสองโดยเฉพาะ บริษัทฯ ยังได้ศึกษาค้นคว้าหาขนาดของตลาดกลุ่มสาวประเภทสอง ด้วยการติดต่อขอข้อมูลของหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับการตรวจรับทหารกองเกิน พบว่า ในปี 2556 และ ปี 2557 มีสาวประเภทสองหรือผู้มีภาวะเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิดในประเทศไทยเข้ารับการตรวจร่างกาย คิดเป็นร้อยละ 1.54 และ 1.21 ของจำนวนชายที่เข้าตรวจรับทหารกองเกินทั้งหมด ตามลำดับ ซึ่งหากนำมาคำนวณกับจำนวนของชายไทยอายุ 15-35 ปี ซึ่งมีอยู่ราว 9.3 ล้านคน พบว่ากลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์กางเกงชั้นในสาวประเภทสองในช่วง บทสรุปผู้บริหาร (ต่อ) อายุดังกล่าวนั้นมีจำนวนมากกว่า 128,120 คน ซึ่งมีขนาดของตลาดใหญ่พอที่จะทำธุรกิจกับผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้จากการคลุกคลีกับกลุ่มสาวประเภทสอง ประกอบกับการศึกษารายงานทางการแพทย์ พบว่าสาวประเภทสองเป็นกลุ่มคนที่มีความพยายามเปลี่ยนแปลงร่างกายให้ตรงกับความต้องการทางจิตใจของตนเองที่ปรารถนาจะเป็นผู้หญิงให้มากที่สุด โดยบริษัทฯ ได้ศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มตัวอย่างสาวประเภทสองซึ่งยังไม่ผ่านการผ่าตัดแปลงเพศจำนวน 63 คน พบว่าจุดที่มีความละเอียดอ่อนที่สุดในร่างกายที่ต้องการปกปิดคืออวัยวะเพศ เพราะเป็นส่วนที่ทำให้เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้เป็นผู้หญิงอย่างแท้จริง กลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัท ฯ แบ่งออกเป็นสองประเภท ประกอบด้วย หนึ่ง ลูกค้า B2C (Business-to-consumer) บริษัทฯ วางสัดส่วนไว้ที่ร้อยละ 70 ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งหมด ได้แก่ สาวประเภทสองอายุตั้งแต่ 15-35 ปี ผู้ยังไม่ผ่านการผ่าตัดแปลงเพศ มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 40,000 บาท และสอง ลูกค้า B2B (Business-to- Business) บริษัทฯ วางสัดส่วนไว้ที่ร้อยละ 30 ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งหมด ได้แก่ ร้านค้าปลีกชุดชั้นในผู้หญิงที่มีหน้าร้าน และร้านค้าปลีกชุดชั้นในผู้หญิงออนไลน์ ทั้งนี้ เนื่องจากมีการศึกษาพฤติกรรมของสาวประเภทสองในปัจจุบันพบว่าคนกลุ่มนี้เลือกซื้อชุดชั้นในสำหรับผู้หญิงมาใช้ในชีวิตประจำวัน ในด้านการผลิตกางเกงชั้นในชนิดพิเศษนี้ ทางบริษัทฯ มีผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตกางเกงชั้นในมาเป็นที่ปรึกษา ได้แก่ ทีมงานจาก บริษัท ไทยเจเพรส จำกัด โดยทางบริษัทฯ เป็นผู้คิดค้นและออกแบบผลิตภัณฑ์จากพื้นฐานความต้องการของสาวประเภทสอง จากนั้นจึงนำแบบที่ได้ไปผลิตออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบเพื่อการทดลองประสิทธิภาพ จนสามารถสรุปผลิตภัณฑ์ต้นแบบออกมาได้ว่า เป็นกางเกงชั้นในขาเว้าทรงเดียวกับผู้หญิงแต่ฐานเป้ากว้างรองรับสรีระของผู้ชาย โดยบริเวณเป้าด้านหน้ากางเกงในจะมีการตัดเย็บวัสดุที่มีความยืดชนิดพิเศษเพื่อปกปิดอวัยวะเพศให้เรียบเนียนไม่ต่างกับสรีระของผู้หญิง สำหรับการเข้าสู่ตลาด บริษัทฯ จะดำเนินการโดยใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์ผ่านเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของบริษัทฯ อาทิ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม เป็นหลัก เนื่องจากเป็นช่องทางที่กลุ่มสาวประเภทสองลงความเห็นว่าเป็นช่องทางที่สะดวก ทั้งยังสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ได้ บทสรุปผู้บริหาร (ต่อ) โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตนเอง ทั้งนี้บริษัทฯ มีแผนการสื่อสารทางการตลาดแบบบูรณาการ (IMC) ไปยังกลุ่มลูกค้า ด้วยหลากหลายวิธีการ เช่น การลงโฆษณาในพื้นที่โฆษณา โซเชียลมีเดีย การซื้อโฆษณาประเภท ‘Adwards’ การโฆษณาแฝง (Tie-in) ผ่านโซเชียลมีเดียของ สาวประเภทสองที่มีชื่อเสียง เป็นต้น ซึ่งเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพเนื่องจากเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง และสามารถกระตุ้นการขายจากการบอกต่อแบบปากต่อปาก (Word of mouth) ได้ในวงกว้าง สุดท้ายนี้ ในการที่บริษัทฯ จะสามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ต้องอาศัยความร่วมมือของทีมงานที่มีคุณภาพ มีเข้าใจความต้องการของลูกค้า และมีการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาซึ่งความได้เปรียบทางการแข่งขัน ทั้งในแง่ของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและการเป็นแบรนด์ที่กลุ่มผู้บริโภคสาวประเภทสองนึกถึงเสมอ
URI: https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/1203
Other Identifiers: TP EM.001 2558
Appears in Collections:Thematic Paper

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
TP EM.001 2558.pdf1.36 MBAdobe PDFThumbnail
View/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.