ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของเล่นและของใช้เด็กมือสองทางออนไลน์ ของประชากรในเขตกรุงเทพมหานคร =THE STUDY OF FACTORS THAT INFLUENCE TOYS AND KIDS STUFF’S PURCHASE OF PEOPLE IN BANGKOK.

Abstract

งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของเล่นและของใช้เด็กมือสองทางออนไลน์ ของประชากรในเขตกรุงเทพมหานคร ประกอบไปด้วยปัจจัยด้านทัศนคติ ปัจจัยด้านความไว้วางใจ และปัจจัยด้านส่วนประสมทางการตลาด ตัวแปรต้นคือ ทัศนคติ ความไว้วางใจ และส่วนประสมทางการตลาด ตัวแปรตามคือการตัดสินใจซื้อของเล่นและของใช้เด็กมือสองทางออนไลน์ กลุ่มตัวอย่างคือประชากรในเขตกรุงเทพมหานคร ที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป จำนวน 231 คน โดยวิธีการสุ่มตัวอย่าง โดยอาศัยความสะดวก (Convenience Sampling) วิธีการทางสถิติได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ (Multiple Regressions) ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีช่วงอายุระหว่าง 31-40 ปี มีระดับการศึกษาระดับปริญญาตรี ประกอบอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนที่ 15,001-30,000 บาท มีสถานภาพแต่งงาน/อยู่ด้วยกัน และไม่มีบุตร โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เคยซื้อสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งซื้อเสื้อผ้า/เครื่องประดับเป็นอันดับที่หนึ่ง รองลงมาเป็นอุปกรณ์เกี่ยวกับเทคโนโลยี (Gadget) และ ของใช้ภายในบ้าน ตามลำดับ โดยความถี่ในการซื้อสินค้าหรือบริการผ่านทางออนไลน์ น้อยกว่าเดือนละ 1 ครั้ง และในแต่ละครั้งจะมีจำนวนเงินในการซื้อ 601-1,000 บาท ปัจจัยด้านทัศนคติ ปัจจัยด้านความไว้วางใจโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับความสำคัญปานกลาง ปัจจัยด้านส่วนประสมทางการตลาด โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับความสำคัญมาก ผลจากการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ปัจจัยด้านทัศนคติ ปัจจัยด้านความไว้วางใจ และปัจจัยด้านส่วนประสมทางการตลาดมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของเล่นและของใช้เด็กมือสองทางออนไลน์ ของประชากรในเขตกรุงเทพมหานครอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05