Please use this identifier to cite or link to this item:
https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/2335
Title: | การศึกษาเครื่องมือทางเทคนิค Money flow index เปรียบเทียบกับการซื้อแล้วถือ = The study of technical analysis money flow index comparative with buy and hold strategy. |
Authors: | เสาวลักษณ์ ซื่อสัตย์วัฒนากุล |
Keywords: | การเงิน Money flow index Buy and hold |
Issue Date: | 22-Feb-2017 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยมหิดล |
Citation: | 2559 |
Abstract: | งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาเครื่องมือทางเทคนิค Money Flow Index (MFI) เพื่อเปรียบเทียบกับวิธีการซื้อแล้วถือ (Buy and Hold) และเพื่อหาค่าพารามิเตอร์ที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุด โดยใช้ข้อมูลของหลักทรัพย์จำนวน 90 หลักทรัพย์ในการศึกษาที่ถูกคัดเลือกมาจาก FTSE SET INDEX ซึ่งแบ่งตามมูลค่าหลักทรัพย์ในตลาดเป็น ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก จากนั้นแบ่งการทดสอบออกเป็น 2 แบบ คือ Walk Forward Analysis โดยจะใช้ข้อมูลรายวันในการทดสอบ และ Training Period - Trading Period โดยแบ่งข้อมูลออกเป็นแบบรายวัน ราย 60 นาที ราย 30 นาที และราย 5 นาที ซึ่งโปรแกรมที่นำมาใช้ทดสอบกับเครื่องมือทางเทคนิคดังกล่าวคือ Metastock และสามารถสรุปผลการศึกษาในครั้งนี้ได้ว่า การทดสอบแบบ Training Period - Trading Period เป็นการแบ่งช่วงเวลา 2 ช่วง โดยในช่วงแรก (Training Period) จะทำการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อหาค่าพารามิเตอร์ที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุด มาใช้ในการทดสอบซื้อขายหลักทรัพย์ในช่วงหลัง ซึ่งพบว่าเครื่องมือทางเทคนิคให้ผลตอบแทนน้อยกว่าวิธีซื้อแล้วถือ (Buy and Hold) ในทุกช่วงเวลา และยังให้ผลตอบแทนน้อยกว่าค่า SET INDEX ในทุกช่วงเวลาที่ทำการทดสอบด้วย การทดสอบแบบ Walk Forward Analysis เป็นการทดสอบโดยนำค่าพารามิเตอร์ที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุดจากการทดลองซื้อขายหลักทรัพย์ใน 5 ปีย้อนหลังมาทดสอบต่อใน 1 ปีถัดไปขยับไปเรื่อยๆ ทีละ1 ปี ในงานวิจัยนี้เริ่มทดสอบตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปี 2559 ในข้อมูลรายวันเท่านั้น ซึ่งผลการทดสอบพบว่า เครื่องมือทางเทคนิค Money Flow Index (MFI) สามารถให้ผลตอบแทนมากกว่าวิธีซื้อแล้วถือ (Buy and Hold) ในปี 2557 เท่านั้น การทดสอบสรุปผลได้ว่า ในปีที่ผลตอบแทนของตลาดต่ำเครื่องมือทางเทคนิคจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าวิธีซื้อแล้วถือ (Buy and Hold) แต่เมื่อพิจารณาถึงค่าความเสี่ยงด้วยแล้ว นักลงทุนก็ต้องยอมรับกับค่าความเสี่ยงที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน และการเพิ่มเงื่อนไข เช่น การหยุดขาดทุน (Stop/Loss) อาจส่งผลให้เครื่องมือทางเทคนิคมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น |
URI: | https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/2335 |
Other Identifiers: | TP FM.019 2559 |
Appears in Collections: | Thematic Paper |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
TP FM.019 2559.pdf | 3.72 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.