ความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทที่มีโครงสร้างการถือหุ้นแบบครอบครัว ต่อมูลค่ากิจการทางบัญชี และคะแนนธรรมาภิบาลในระดับดีเลิศ กรณีศึกษาบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย =RELATIONSHIP BETWEEN FAMILY BUSINESS, BOOK VALUE OF FIRM AND CORPORATE GOVERNANCE WITH EXCELLENT RECOGNITION LEVEL IN THE STOCK EXCHANGE OF THAILAND.

Abstract

งานวิจัยนี้ได้มีการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทที่มีโครงสร้างการถือหุ้นแบบครอบครัวต่อระดับคะแนนธรรมาภิบาล ในระดับดีเลิศและผลการดำเนินงานของบริษัท โดยผู้วิจัยได้ใช้ผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ เป็นตัวแปรสำหรับวัดผลการดำเนินงานของบริษัท และระดับคะแนนธรรมาภิบาลจากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย ในการศึกษาการความเป็นธุรกิจครอบครัวนั้น จะดูในส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุมบริษัทและผู้บริหารที่มีความเชื่อมโยงกับผู้ถือหุ้นที่เป็นครอบครัว จากผลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทที่มีโครงสร้างการถือหุ้นแบบครอบครัวต่อระดับคะแนนธรรมาภิบาล และผลการดำเนินงานของบริษัทนั้น พบว่าบริษัทที่มีโครงสร้างการถือหุ้นแบบครอบครัวมีความสัมพันธ์เชิงลบต่อระดับคะแนนธรรมาภิบาลในระดับ 4-5 ดาว ส่วนด้านผลการดำเนินงาน (ROA) จะพบว่า บริษัทที่มีคะแนนธรรมาภิบาลในระดับ 4-5 ดาว จะส่งผลเชิงลบ ดังนั้นความเป็นครอบครัวถือเป็นเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องในการที่จะได้รับคะแนนธรรมาภิบาล ในเรื่องการเป็นผู้ถือหุ้นควบคุมซึ่งอาจมีอำนาจครอบงำกิจการ อย่างไรก็ตามหากบริษัทสามารถดำเนินกิจการได้ตามเกณฑ์ที่จะได้รับคะแนนธรรมาภิบาล ย่อมสร้างผลการการดำเนินงานที่ดีให้แก่บริษัทได้ หากแต่ว่ายิ่งบริษัทต้องการระดับคะแนนที่สูงขึ้น บริษัทจำเป็นต้องใช้ต้นทุนที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน