ความสัมพันธ์ระหว่าง ความเชื่อเรื่องโชคลาง ความเชื่อในการซื้อรถยนต์ และความมั่นใจในการขับขี่ =RELATIONSHIPS BETWEEN SUPERSTITIOUS BELIEFS, AUTOMOBILE-PURCHASE SUPERSTITION AND DRIVING CONFIDENCE.

Abstract

วัตถุประสงค์งานวิจัย 1.เพื่อศึกษาผลกระทบของความเชื่อเรื่องโชคลาง ต่อความเชื่อในการซื้อรถยนต์ของผู้บริโภค 2.เพื่อศึกษาผลกระทบของความเชื่อในการซื้อรถยนต์ของ ส่งผลต่อความมั่นใจในการขับขี่ ขอบเขตประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 1.ประชากร คือผู้ซื้อรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 2.กลุ่มตัวอย่าง คือผู้ซื้อรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 400 ตัวอย่าง วิธีการวิจัย การวิจัยเชิงปริมาณ(Quantitative Research) แบบวัดครั้งเดียว (One-shot study) โดยใช้ลักษณะเชิงสำรวจ (Survey)มาเป็นแนวทางในการศึกษาและใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจากนั้นจึงนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดมาประมวลผลโดยใช้โปรแกรม SPSS ผลการวิจัย กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 21-30 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี/เทียบเท่า และประกอบอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน โดยผลการวิจัยทำให้ทราบว่า 1.ความเชื่อเรื่องโชคลางส่งผลต่อความเชื่อในการซื้อรถยนต์ ของผู้ใช้รถยนต์นั่งส่วนบุคคลในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 95% และความเชื่อเรื่องโชคลาง สามารถทำนายความแปรปรวนของความเชื่อในการซื้อรถยนต์ ได้ร้อยละ 53.2ความเชื่อในการซื้อรถยนต์ไม่ส่งผลต่อความมั่นใจในการขับขี่ ของผู้ใช้รถยนต์นั่งส่วนบุคคลในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ