Please use this identifier to cite or link to this item:
https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/3624
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
eperson.contributor.advisor | กิตติชัย ราชมหา | - |
dc.contributor.author | พิรุณห์ ยิ่งยงศักดิ์ศรี | - |
dc.date.accessioned | 2021-03-23T10:50:02Z | - |
dc.date.available | 2021-03-23T10:50:02Z | - |
dc.date.issued | 2020-11-24 | - |
dc.identifier | TP BM.016 2563 | - |
dc.identifier.citation | 2563 | - |
dc.identifier.uri | https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/3624 | - |
dc.description.abstract | ในช่วงปี พ.ศ. 2560 เรื่อยมา ปริมาณการบริโภคของสินค้าเกษตรในประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งผัก ผลไม้นานาชนิดรวมถึงพริก อันเนื่องมาจากเทรนด์การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นของคนไทย แต่ทว่าพื้นที่เพาะปลูกพริกของเกษตรกรในประเทศกลับสวนทางกันและมีแนวโน้มจะหันไปนำเข้าสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้นเนื่องจากหลายปัจจัยประกอบกันที่อาจทำให้เกษตรกรรายย่อยไม่สามารถแข่งขันกับราคาในตลาดได้ จึงเกิดแนวคิดที่จะนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาจุดแข็งของสินค้าพริกในประเทศจากการนำพริกพันธุ์ ซุปเปอร์ฮอท (Super-hot chili peppers) ซึ่งมีปริมาณสารสำคัญในพริกคือ capsaicin สูงที่สุดในโลก แต่การปลูกพริกในพื้นที่ปัจจุบันยังมีอุปสรรค์จากสภาพแวดล้อมที่ควบคุมไม้ได้ เช่น ฤดูกาล ภัยแล้ง เป็นต้น จึงเกิดแนวคิดที่จะนำพริกเข้ามาปลูกในระบบโรงเรือนแบบปิด คือ Plant factory เพื่อเพิ่มจุดแข็งในด้านผลผลิตและกลบจุดด้อยของฟาร์มพริกที่มีต่อสภาพแวดล้อมภายนอก อย่างไรก็ตามการออกสินค้าใหม่สู่ตลาดยังคงต้องการความรู้และความเข้าใจของผู้บริโภคเพื่อลดความเสี่ยงในการล้มเหลว การวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความต้องการของผู้บริโภคพริกในระดับองค์กรที่นำพริกไปต่อยอดเป็นสินค้าอื่นๆทั้งในแบบใช้เป็นส่วนผสม สกัดหรือแปรรูป (Business-to-Business)(B2B) จากการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative research) เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค โดยจะมีการเก็บข้อมูลจากภาคอุปทาน จากการใช้บทสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง (Semi-structured interviews) และนำข้อมูลมาวิเคราะห์และอภิปรายผลแบบกลุ่มในเชิงภาพรวม จนได้องค์ความรู้ที่เหมาะสมต่อการนำไปต่อยอดหรือเพิ่มความสามารถในการแข่งขันสำหรับผู้ประกอบการต่อไป ผลกการวิจัยให้ข้อสรุปถึงปัจจัยที่ผู้บริโภคพริกในระดับต้นนํ้าออกเป็น 3 กลุ่มคือ พ่อค้าคนกลาง โรงงานสกัดและโรงงานแปรรูปที่มีข้อเรียกร้องต่อผู้ผลิตหรือเกษตรกรที่ต่างกันอกไป และรูปแบบโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานของแต่ละอุตสาหกรรมซึ่งแสดงเส้นทางการเดินทางของสินค้าจากต้นนํ้าไปจนถึงผู้บริโภค จึงสรุปได้ว่ารูปแบบธุรกิจที่สอดคล้องกันกับพริกซุปเปอร์ฮอทที่ผ่านการปลูกจาก Plant Factory มากที่สุดคือธุรกิจโรงงานสกัดพริกซึ่งมีปัจจัยความต้องการจากวัตถุดิบสอดคล้องกันมากที่สุดจากทุกอุตสาหกรรม | - |
dc.publisher | มหาวิทยาลัยมหิดล | - |
dc.subject | การจัดการธุรกิจ | - |
dc.subject | พฤติกรรมผู้บริโภค | - |
dc.subject | ความต้องการตลาด | - |
dc.subject | พริกขี้หนู | - |
dc.subject | พริกซุปเปอร์ฮอท | - |
dc.subject | การวิจัยเชิงคุณภาพ | - |
dc.title | การศึกษาปัจจัยความต้องการตลาดและรูปแบบธุรกิจนวัตกรรมเกษตรสำหรับพริกขี้หนูพันธุ์ซุปเปอร์ฮอทที่มีความเป็นไปได้เชิงพาณิชย์=THE COMMERCIAL FEASIBILITIES STUDY OF DEMANDS AND AGRICULTURAL BUSINESS MODEL INNOVATION OF SUPER-HOT CHILI PEPPERS. | - |
dc.type | Thematic Paper | - |
Appears in Collections: | Thematic Paper |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
TP BM.016 2563.pdf | 2.93 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.