ทัศนคติและปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้ซ้ำกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) ในเขตกรุงเทพมหานคร ที่ผู้ให้บริการไม่ใช่สถาบันทางการเงิน =ATTUTUDE AND FACTOR AFFECTION TO REUSE OF NON BANK E-WALLET IN BANGKOK.

Abstract

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1)เพื่อศึกษาทัศนคติและปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้ซ้ำกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) ในการชำระสินค้าและบริการ ของคนในกรุงเทพมหานคร ที่ผู้ให้บริการไม่ใช่สถาบันทางการเงิน (2)เพื่อศึกษาทัศนคติและปัจจัยที่มีอิทธิพลมากที่สุดต่อพฤติกรรมการใช้ซ้ำกระเป๋าเงินเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) ของคนในเขตกรุงเทพมหานคร ที่ผู้ให้บริการไม่ใช่สถาบันทางการเงิน โดยเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามออนไลน์ (Online Questionnaire) จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 214 คน ผลการวิจัยพบว่าผู้ที่ตอบแบบสอบถามที่เป็นกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงจำนวน 148 คน คิดเป็นร้อยละ 69.2 อยู่ในช่วงอายุ 20 – 30 ปี จำนวน 104 คน คิดเป็นร้อยละ 48.6 การศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า จำนวน 122 คน คิดเป็นร้อยละ 57.0 มีรายได้ 40,001 บาทขึ้นไป จำนวน 71 คน คิดเป็นร้อยละ 33.2 ใช้บริการ Rabbit Line Pay จำนวน 147 คน คิดเป็นร้อยละ 68.7 ความถี่ในการใช้ 1-3 ครั้งต่อเดือน จำนวน 100 คน คิดเป็นร้อยละ 46.7 ส่วนใหญ่มีความถี่ในการใช้ชำระสินค้าหรือบริการในร้านค้า Online จำนวน 149 คน คิดเป็นร้อยละ 69.6 เหตุในการใช้จ่ายด้วยกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์(E-Wallet) คือ สะดวกสบาย สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา จำนวน 199 คน คิดเป็นร้อยละ 93 และปัจจัยมีผลต่อพฤติกรรมการใช้ซ้ำกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) ในการชำระสินค้าและบริการ ได้แก่ ทัศนคติ (Attitude) ความปลอดภัยของข้อมูล (Information Security) แรงจูงใจ (Motivation) ตามลำดับ