การศึกษาพฤติกรรมและส่วนประสมทางการตลาดที่ลูกค้าคำนึงถึงในการตัดสินใจใช้บริการสปาและนวดแผนไทย =A STUDY OF THE CUSTOMER BEHAVIOR AND MARKETING MIX OF CUSTOMERS THAT EFFECT THE DECISION OF BUYING SPA AND MASSAGE SERVICE.

Abstract

ธุรกิจสปาทั่วโลกในปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 93.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปีค.ศ. 2017 ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ธุรกิจสปายังสร้างงานให้พนักงานมากถึง 2.6 ล้านคน และสร้างรายได้ที่เติบโตมากถึง 9.9% ต่อปี สำหรับธุรกิจสปาถือว่ามีการเติบโตสูงมากเพราะตั้งแต่ปี ค.ศ. 2015-2018 เติบโตมากถึง 2.3% มากที่สุดในหมวดอุตสาหกรรมโรงแรม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ รายงานผลว่า มูลค่าตลาดของธุรกิจสปาในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2556 โดยที่ตลาดมีมูลค่า 3,469 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเมื่อปี 2555 ซึ่งมีมูลค่าตลาดเท่ากับ 3,117 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.27 ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ความสามารถของการแข่งขันพบว่า ธุรกิจสปา และนวดแผนไทยเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่ดีในอนาคต ทั้งในกลุ่มลูกค้าชาวไทย และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างชาติ เป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนไม่สูง พนักงานนวดแผนไทยมีฝีมือ และมีความชำนาญ ปัญหาเรื่องพนักงานนวดที่มีฝีมือนั้น ปัจจุบันมีจำนวนไม่เพียงพอ รวมไปถึงปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุน การวิจัยนี้เป็นวิจัยเชิงคุณภาพ เน้นการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการสปาและนวดแผนไทย โดยผู้จัดทำใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างของการวิจัยนี้โดยใช้วิธีแบบสุ่มตัวอย่างไม่อาศัยความน่าจะเป็น ด้วยวิธีแบบเจาะจง จำนวน 10 คน และใช้วิธีการสัมภาษณ์แบบเชิงลึก ด้วยแบบสัมภาษณ์ประเภทกึ่งโครงสร้าง เป็นเครื่องมือในการทำงานวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยเลือกใช้วิธีการประเมินค่าทัศนคติแบบง่ายในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ และนำเสนอข้อมูลในรูปแบบตารางเปรียบเทียบประกอบคำอธิบาย เพื่อนำผลการวิจัยมาอ้างอิงในแผนธุรกิจของผู้จัดทำ โดยข้อมูลที่ได้จากการทำวิจัยจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนารูปแบบบริการและระบบการบริหารธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย อย่างมีคุณค่าและประสิทธิภาพสูงสุด