การศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นเพื่อพัฒนาแผนธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสารสกัดเพรียงหัวหอม น้ำมันรำข้าว และวิตามินอี สำหรับบำรุงสมองและป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ในผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางสมอง

Abstract

ในปัจจุบันโรคอัลไซเมอร์ถือเป็นโรคที่พบอันดับต้นๆ และจากสถิติของกระทรวงสาธารณสุขพบว่าผู้ป่วยอัลไซเมอร์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โรคอัลไซเมอร์เป็นโรคที่หากเกิดขึ้นแล้ว จะเกิดเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ ในบางครั้งญาติหรือผู้ดูแลอาจไม่ได้สังเกต เพราะส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าผู้สูงอายุหลงลืมตามวัยเป็นเรื่องธรรมดา จึงดูแลกันตามสมควร เมื่อผู้ป่วยมีปัญหาความจำ และพฤติกรรม เปลี่ยนแปลงไปมาก ที่ญาติไม่สามารถจัดการได้ จึงพามาพบแพทย์ และแพทย์จะทำการรักษาโรคตามอาการที่เกิดขึ้น ประคับประคองให้กระบวนการรับรู้ของผู้ป่วยเสื่อมลงช้าที่สุดเท่าที่ เพื่อเป็นการยืดเวลาที่ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตประจำวันด้วยตนเองได้ออกไปให้ยาวขึ้น และช่วยลดภาระของผู้ดูแล ทำให้ผู้ป่วยอยู่ร่วมกับครอบครัวได้นานขึ้น เนื่องจากโรคอัลไซเมอร์เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาหายขาดได้ โรคอัลไซเมอร์อาจป้องกันได้ด้วยวิธีดูแลตัวเอง โดยการหลีกเลี่ยง อาหารที่มีไขมันสูง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกาลังกาย ไม่สูบบุหรี่ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างไรก็ตาม จากการใช้ชีวิตของคนในเมืองในยุคปัจจุบัน ทำให้เกิดพฤติกรรมการกินอาหารไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ ขาดการออกกาลังกาย มีความเครียดสะสม และได้รับมลภาวะจากสิ่งแวดล้อมรอบกาย ดังนั้น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการดูแลสุขภาพ และสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ในอนาคตได้ บริษัท ไลฟ์เมต จำกัด จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสารสกัดเพรียงหัวหอมน้ำมันรำข้าว และวิตามินอี สำหรับบำรุงสมองและป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ในผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางสมอง ชื่อผลิตภัณ์เสริมอาหาร นิวพลาส ภายใต้แบรนด์ Life Mate เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค บริษัทฯ เป็นผู้นำเข้าพาสมาโลเจนที่สกัดมาจากเพรียงหัวหอมจากประเทศญี่ปุ่น โดยคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ผลิตจากโรงงานที่มีความน่าเชื่อถือ มีงานวิจัยรับรองทั้งเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัย และว่าจ้างบริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรมเจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นโรงงานที่ได้รับมาตรฐานควบคุมการผลิตและมีความน่าเชื่อถือให้ทำการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบแคปซูลเจล ซึ่งเป็นรูปแบบที่ง่ายและสะดวกต่อการรับประทาน กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักจะเป็นกลุ่มคนที่ชอบผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเพื่อการรักษาหรือบำรุงร่างกาย อยู่ในวัยทำงานตอนปลายจนถึงวัยเกษียณ อายุตั้งแต่ 45 ปี ขึ้นไปจนถึงอายุ 65 ปี ที่มีวัตถุประสงค์ต้องการซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อบำรุงสมองและลดความเสี่ยงการเกิดโรคอัลไซเมอร์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต กลุ่มเป้าหมายรองจะเป็นวัยทำงานตอนต้นอายุตั้งแต่ 25 ปี ขึ้นไปจนถึงอายุ 45 ปี ที่ต้องการซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้กับพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ โดยจัดจำหน่ายผ่านช่องทางหน้าร้านขายยาที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลและร้านขายยาขนาดใหญ่ในกรุงเทพมหานคร เพื่อให้สะดวกต่อการซื้อของผู้บริโภค และมีช่องทางอีคอมเมิร์ช ได้แก่ Line@ , Shopee, Lazada ที่ได้รับความนิยมและสะดวกต่อการสั่งซื้อสินค้าในยุคปัจจุบัน โดยในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้บริโภคผ่านแบรนด์โดยตรงนั้นมีสัดส่วนการจัดจำหน่ายออนไลน์ร้อยละ 40 และผ่านหน้าร้านร้อยละ 60 และใช้ช่องทาง Facebook ในการให้ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องการโรคอัลไซเมอร์ให้ผู้บริโภคได้ตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของโรคนี้ ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย และมีความน่าสนใจ และยังมีการประชาสัมพันธ์โปรโมชั่นโดย ใช้ Google adwords นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการออกงานสัมมนา งานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องการสุขภาพ ผู้สูงอายุ บริษัทฯ จะใช้เงินลงทุนในปีแรก 2,179,000 บาท คาดการณ์รายได้ในปีแรกอยู่ที่ 6,749,856 บาท และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งในปี ที่ 5 อยู่ที่ 10,124,784 บาท ผลตอบแทนในการลงทุนคิดเป็นมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) เท่ากับ 3,697,465 บาท อัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) 56.94% มีระยะเวลาคืนทุน 24 เดือน