การศึกษารูปแบบในการจัดจำหน่ายเครื่องประดับผ่านช่องทาง Ecommerce

Abstract

สารนิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนารูปแบบการดำเนินธุรกิจการจัดจำหน่ายเครื่องประดับเงินผ่านช่องทางออนไลน์ โดยการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์สาหรับการจัดจำหน่ายเครื่องประดับเงินผ่านช่องทางออนไลน์ที่มีโปรแกรมในการ Customize เครื่องประดับด้วยตัวเองบนเว็บไซต์แบบ 3D อย่างง่าย ที่ผู้ใช้งานสามารถ Customize เครื่องประดับจากแบบเครื่องประดับดั่งเดิมที่มีกว่า 7,000 แบบ ตั้งแต่ แหวน, จี้, สร้อยคอ, โชคเกอร์, โซ่, สร้อยข้อมือ, กำไล และต่างหู เพื่อมาปรับหรือออกแบบเพิ่มเติม โดยมีการสร้างฟังชั่นการปรับพื้นผิว ขนาดกรอบทรงกลม ทรงเหลี่ยม ขนาดไซน์เครื่องประดับ การเลือกสีบนผิวเครื่องประดับ 3D และการใส่ข้อความลงบนแบบเครื่องประดับ 3D ที่ทำให้ลูกค้าสะดวกในการส่งภาพตัวอย่างที่ทำให้ลูกค้าได้ดูสินค้าตรงตามความต้องการมากที่สุดและ ปรับแต่งได้ตามความต้องการก่อนทำการสั่งผลิต จากข้อมูลการเติบโตอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของสหรัฐฯ มูลค่าตลาดค้าปลีกเครื่องประดับและอัญมณีของสหรัฐฯ มีมูลค่าประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท ในปี 2564 เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 6.1 ซึ่งประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับหนึ่งที่ส่งออกเครื่องประดับเงินของสหรัฐฯ และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่ยังคงไม่มีข้อยุติ มีการขึ้นภาษีและการกีดกันทางการค้า ทำให้มีแนวโน้มนำเข้าเครื่องประดับเงินจากไทยเพิ่มขึ้นแทน ถึงแม้ว่าในปี 2562 จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ยอดเครื่องประดับมียอดขายลดลง 23% แต่พบว่า ประเทศสหรัฐอเมริกามีการซื้อขายเครื่องประดับผ่านช่องทางจัดจำหน่ายออนไลน์เติบโตจากปี 2562 ร้อยละ18.9 คาดการณ์ว่าในระหว่างปี 2563-2567 ตลาดเครื่องประดับออนไลน์ทั่วโลกจะเติบโตได้เฉลี่ยร้อยละ 15% ต่อปี บริษัท เจ เจ ซิลเวอร์ จิลเวลรี่ (JJ Silver Jewelry) จากัด ผลิต จัดจำหน่ายเครื่องประดับเงิน 92.5% บนเว็บไซต์สำหรับการจัดจำหน่ายเครื่องประดับเงินผ่านช่องทางออนไลน์ที่มีโปรแกรมในการ Customize เครื่องประดับด้วยตัวเองบนเว็บไซต์แบบ 3D โดยการผลิตและออกแบบเครื่องประดับเงินจะมีค่าบริการในการทำบล็อกสาหรับผลิตสินค้าแบบนั้นๆโดยเฉพาะ ขั้นต่ำในการผลิตสำหรับเครื่องประดับที่มีน้าหนักไม่เกิน 6 กรัม รับการผลิตขั้นต่ำที่ 50 ชิ้น และเครื่องประดับที่มีน้ำหนักเกิน 6 กรัมขึ้นไป รับการผลิตขั้นต่าที่ 30 ชิ้น โดยในส่วนของการจัดจำหน่ายเครื่องประดับเงิน 92.5% แบบ B-to-B มีมูลค่ารวม 6,000 บาทขึ้นไปต่อคำสั่งซื้อ บริษัทฯ วางกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกเครื่องประดับเงินทั้งทาง ออฟไลน์ และออนไลน์ในประเทศสหรัฐอเมริกา กลุ่มเอเย่นต์ (Agent) ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย และกลุ่มลูกค้าเดิมของบริษัทอยู่แล้ว บริษัทฯ จะใช้กลยุทธ์ทางการตลาดแบบบูรณการในการผลักดันให้เครื่องประดับเงิน บริการและเว็บไซต์ของบริษัทเป็นที่รู้จักให้มากที่สุด โดยการทาโฆษณา Google Ads และ การทำ SEO บน Google การสร้างการรับรู้ผ่านช่องทางSocial media แพลตฟอร์ม Market Place และ การทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างการออกอีเว้นท์ ในด้านการผลิต บริษัทฯจะมีการนำเทคโนโลยีมาร่วมในการผลิตด้วย อย่างเครื่อง 3D printing ในการขึ้นต้นแบบงานใหม่ ในด้านการขาย บริษัทฯจะขายผ่านช่องทางออนไลน์ การออกอีเว้น และหน้าร้านที่ห้างสรรพสินค้า Palladium World Shopping บริษัทฯ จะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 3,000,000 บาท เพื่อดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินการเพื่อการส่งออก โดยคาดการณ์ว่าภายใน 5 ปี บริษัทฯ จะมีมูลค่าปัจจุบันสุทธิรวมทั้งสิ้น 5,910,494 บาท อัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) 23.03% และคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 1 ปี 9 เดือน