แผนธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้เทียม เฟอร์นิเจอร์ ที่มีความทนทานต่อสภาพการใช้งานและสภาพอากาศ

Abstract

แบรนด์INFURNITEเป็นบริษัทที่ทำการผลิตเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปที่ทาจากไม้เทียม ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความทนทานต่อสภาพการใช้งานเพื่อแก้ไขปัญหาและข้อจำกัดในการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่ในปัจจุบันโดยผลิตภัณฑ์จะทำมาจากวัสดุไม้เทียมประเภทโพลิเมอร์ที่สามารถใช้กระบวนการผลิตเฟอร์นิเจอร์โดยปกติทั่วไปได้ แต่วัสดุมีความทนทานต่อสภาพการใช้งานมากกว่าไม้ธรรมชาติและไม้Particle Boardที่มักนิยมนามาทำเฟอร์นิเจอร์เป็นอย่างมาก ทำให้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์INFURNITEมีรูปแบบการนำไปใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่น การใช้งานภายในครัวหรือห้องน้ำ ซึ่งมักจะเป็นพื้นที่ที่มีโอกาสสัมผัสกับความชื้นและน้ำอยู่เป็นประจำ หรือการใช้งานในพื้นที่ที่มีความกังวลปัญหาปลวกกัดกินเนื้อไม้ เป็นต้น โดยเฟอร์นิเจอร์จะผลิตออกมาในรูปแบบเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปเป็นModuleย่อยที่ขนาดไม่ใหญ่มากแต่สามารถนำมาประกอบกันเพื่อปรับขนาดให้มีความพอดีกับพื้นที่ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีพื้นที่การใช้งานและงบประมาณ ที่แตกต่างกัน ในปัจจุบันการขยายตัวของประชากรในตัวเมืองมีเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ อันเนื่องมาจากภาคเศรษฐกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทาให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ส่งผลทำให้มีความต้องการเฟอร์นิเจอร์เพื่อมาตกแต่งที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากวัสดุที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน เช่น ไม้ธรรมชาติอาจจะยังมีปริมาณที่ไม่เพียงพอกับความต้องการ หรือ ไม้Particle Boardเองก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ในทุกพื้นที่ ทำให้เราเห็นช่องทางในการทำธุรกิจ โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจจะมีอยู่สองกลุ่มคือ กลุ่มเป้าหมายหลักคือกลุ่มลูกค้ารายย่อย(B2C) ได้แก่ กลุ่มที่มีความต้องการตกแต่งที่อยู่อาศัยของตนเอง และกลุ่มเจ้าของโครงการที่พักอาศัย ที่ต้องการนำเฟอร์นิเจอร์ไปตกแต่งเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการหรือนำไปทาเป็นโปรโมชั่นเพื่อส่งเสริมการขาย การดำเนินงานของธุรกิจในภาพรวมจะมีการบริการให้คำปรึกษาในการออกแบบจากขนาดพื้นที่หน้างานจริงและหลังจากที่สรุปแบบและยอดการสั่งซื้อสินค้า จึงจะเริ่มทำการสั่งผลิตสินค้าโดยมีวัตถุดิบหลักคือแผ่นไม้เทียม PVC Foam Boardซึ่งทำการสั่งซื้อมาจากผู้ผลิตภายในประเทศที่ได้คุณภาพมีมาตรฐาน แล้วจึงนำมาแปรรูปให้ได้ขนาดตามที่ออกแบบไว้ จากนั้นจะทำการประกอบทาสีและตรวจสอบคุณภาพก่อนส่งมอบและติดตั้งให้กับลูกค้า โดยเป็นการบริการแบบ One stop service ที่มีการดูแลหลังการขายและมีการรับประกันคุณภาพและอายุการใช้งานของสินค้า โดยในช่วงแรกของการดำเนินงาน จะแบ่งหน่วยงานในการดำเนินงานองค์กรออกเป็นฝ่าย คือ ฝ่ายงานบริหารจะดูแลในเรื่องของการอำนวยการ การควบคุมงานและวางแผน ฝ่ายขายและการตลาด ฝ่ายออกแบบ ฝ่ายผลิตและขนส่ง ฝ่ายบัญชีและการเงิน รูปแบบกลยุทธ์ที่ใช้ในการดำเนินงาน คือ DifferentiationผสมผสานกับCost Leadershipจากการศึกษาความต้องการของตลาดลูกค้าที่มีความต้องการซื้อเฟอร์นิเจอร์และกลุ่มธุรกิจที่ผลิตสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์ในตลาดพบว่ามีช่องว่างในการทำตลาด คือ กลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นในเรื่องความทนทานและมีราคาในระดับปานกลางยังมีผู้เล่นอยู่ในตลาดไม่มากนัก ดังนั้นเราจะอาศัยจุดนี้ในการสร้างความแตกต่างโดยมุ่งเน้นกระบวนการออกแบบและการผลิตที่ใช้ต้นทุนในระดับต่าแต่สินค้ายังคงมีคุณภาพและได้มาตรฐาน ทำให้สามารถผลิตสินค้าได้ในระดับราคาที่เหมาะสมกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ส่วนในอนาคตเรามีแผนที่Diversificationผลิตสินค้าอื่นๆ เช่น ผลิตชุดครัวไทยสาำร็จรูปสำหรับวางไว้นอกบ้าน ผลิตบ้านพักสำเร็จรูปเพื่อกลุ่มธุรกิจโรงแรม หรือ อุปกรณ์ที่ใช้ตกแต่งสวน เช่น โครงไม้ระแนงแขวนกล้วยไม้ โต๊ะหรือเก้าอี้ไม้ระแนง รั้วแปลงดอกไม้ เป็นต้น ในส่วนของแผนการตลาดและการเงินนั้น จะมีการกำหนดราคาสินค้าจากการสารวจคู่แข่ง การคำนวณต้นทุนกำไรจากการดำเนินงานและกำลังซื้อกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในตลาด ทำให้เราสามารถกำหนดPositionPosition PositionPositionPositionPosition ของสินค้าโดยเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ปานกลาง เพราะเป็นกลุ่มที่พอจะมีกำลังซื้อและมีสัดส่วนของประชากรที่มีปริมาณอยู่มากพอสมควร สอดคล้องกับรูปแบบของสินค้าที่เน้นตลาด Mass Production และการใช้พื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเป็นหลัก โดยมีช่องทางการขายคือ การออกงานอีเว้นท์และการมีหน้าร้านบริการแบบ One Stop Service เป็นช่องทางหลัก และการใช้ช่องทางออนไลน์ในการสร้าง Brand AwarenessBrand และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทุกที่ทุกเวลาเพิ่มความสะดวกในการนาเสนอรูปแบบของสินค้าและบริการ โดยใช้ต้นทุนไม่สูงมากนัก ในด้านแผนการเงิน จะใช้เงินลงทุนในปีแรกประมาณ 3.23 ล้านบาท โดยใช้เงินลงทุนส่วนของเจ้าของ 2 ล้านบาท และเงินกู้ 1.23 ล้านบาท และจากการคาดการณ์จะมียอดขายโดยประมาณ 416 หน่วยต่อปี ซึ่งจะทำให้มีรายได้เฉลี่ยในปีแรกประมาณ 13.13 ล้านบาท เมื่อหักลบราจ่ายทั้งหมดจะทำให้มีกำไรโดยเฉลี่ยในปีแรกประมาณ 0.98 ล้านบาท IRR อยู่ที่ 52% NPV เท่ากับ 3.086 ล้านบาท และระยะเวลาที่ใช้ในการคืนทุนอยู่ที่3ปีโดยประมาณ