ปัจจัยค่าตอบแทนในบริษัทเอกชนรูปแบบใดส่งผลต่อความจงรักภักดีในองค์กร ของพนักงานเจนเนอร์เรชั่นวาย

Abstract

งานวิจัยเล่มนี้จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อศึกษาปัจจัยค่าตอบแทนที่เป็นตัวเงิน ปัจจัยผลประโยชน์เกื้อกูล และค่าตอบแทนเชิงความสัมพันธ์จากการทำงานในบริษัทเอกชนที่ส่งผลต่อความจงรักภักดีในองค์กรของพนักงานกลุ่มเจนเนอเรชั่นวาย โดยเป็นการศึกษาเชิงปริมาณ กลุ่มที่ใช้ในการศึกษาเป็นพนักงานในเจนเนอเรชั่นวาย อายุตั้งแต่ 22 ปี ถึง 42 ปี เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2523 – 2543 ของบริษัทเอกชน จำนวน 205 คน โดยเป็นพนักงานทั้งระดับ ปฏิบัติการ และระดับหัวหน้างาน ทางผู้วิจัยจึงใช้วิธีสุ่มตัวอย่างแบบไม่อาศัยความน่าจะเป็น (Non-Probability Sampling) โดยการใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบตามสะดวก (Convenience Sampling) ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา (Descriptive Statistic) นอกจากนั้นยังใช้การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression) เพื่อศึกษาหาความสัมพันธ์ของแต่ละตัว แปรที่ทำการศึกษาตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ โดยใช้แบบสอบถามแบบออนไลน์ (Google form) จากสถิติพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 31-40 ปี เกิดระหว่างปีพ.ศ. 2525 ถึง – พ.ศ. 2534 จำนวน 106 คน (ร้อยละ 51.7) มีระดับการศึกษาปริญญาโทหรือสูงกว่า จำนวน 141 คน (ร้อยละ 68.8) มี รายรับต่อเดือน 15,000 ถึง 30,000 บาท จำนวน 73 คน (ร้อยละ 35.6) และมีอายุการทำงานในบริษัทปัจจุบัน 5 ปี ขึ้นไป ถึง 10 ปี จำนวน 57 คน (ร้อยละ 27.8) โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับความพึงพอใจในปัจจัยด้าน ต่างๆโดยภาพรวมอยู่ในความพึงพอใจระดับมาก หากเรียงลำดับจากมากไปน้อย กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับ ค่าตอบแทนเชิงความสัมพันธ์จากการทำงาน (Relational Returns From Work) เป็นอันดับแรก รองลองมาคือ ค่าตอบแทนที่เป็นตัวเงิน (Cash Compensation) และลำดับสุดท้ายคือ ผลประโยชน์ที่เกื้อกูล (Welfare Benefits) ตามลำดับ