แผนธุรกิจ คอนค็อคชั่น คอฟฟี่ เจอร์เน่ ธุรกิจร้านกาแฟเพื่อส่งมอบประสบการณ์การดื่มกาแฟที่ดีที่สุด

Abstract

เครื่องดื่มกาแฟ ในปัจจุบันนั้นกำลังมีภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ จากเครื่องดื่มทั่วไปที่มีคุณสมบัติคล้ายเครื่องดื่มชูกาลังที่ช่วยคลายความง่วงรสชาติขมฝาด ปัจจุบันได้มีการพัฒนาสายพันธุ์เมล็ดกาแฟ กระบวนการคั่วเมล็ดกาแฟ กระบวนการสกัด ไปจนการเสริมส่วนผสมต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งเครื่องดื่มกาแฟที่มีรสชาติ และสัมผัสที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละแก้ว และสามารถที่จะทำให้ปรับแต่งปัจจัยต่างๆ เพื่อให้เครื่องดื่มกาแฟแต่ละแก้วออกมาเหมาะสมกับผู้บริโภคผู้นั้นมากที่สุด โดยมูลค่าตลาดกาแฟนั้นจากสถิติในปี พ.ศ. 2564 มีมูลค่าสูงถึง 6 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7 ของมูลค่าตลาดเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ จากผลสำรวจพบว่าผู้บริโภคให้ความสำคัญกับคุณค่าด้านคุณภาพและรสชาติมากกว่าราคาของเครื่องดื่มกาแฟอย่างมาก ผู้จัดทำได้เห็นกระแสของตลาดกาแฟที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับการได้รับทุนทรัพย์จำนวนหนึ่งจากผู้ใหญ่ที่เคารพ และในพื้นที่รามคำแหงยังไม่มีธุรกิจร้านกาแฟที่ให้บริการเครื่องดื่มกาแฟคุณภาพระดับพิเศษ (Specialty Coffee) เป็นช่องว่างที่จะสามารถเข้าไปเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคในฐานะร้านกาแฟพิเศษที่จะนำพาผู้บริโภคไปสู่เครื่องดื่มกาแฟตามคุณภาพที่คาดหวัง นอกจากนี้ กาแฟและธุรกิจที่แวดล้อมพืชชนิดนี้อยู่นั้นกำลังจะมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคตอันใกล้ เนื่องมาจากสัญญาณที่ดีจากทางหน่วยงานภาครัฐที่เริ่มให้การสนับสนุนการทำเกษตรเมล็ดกาแฟ และการพัฒนาพันธุ์เมล็ดกาแฟ ที่มีอยู่ในไทยให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้น และมีคุณภาพที่มากขึ้น รวมไปถึงกระแสการผลิตเครื่องดื่มกาแฟที่มีคุณลักษณะแปลกใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยม และมีการแข่งขันกันในระดับประเทศคอนค็อคชั่น คอฟฟี่ เจอร์เน่ มีเป้าหมายเป็นร้านกาแฟที่เปิดโลกทัศน์ให้กับผู้บริโภคที่ให้ความสนใจ หรือชื่นชอบในการบริโภคเครื่องดื่มกาแฟ ให้ได้รู้จักกับกาแฟที่มีระดับคุณภาพที่สูง ขึ้นมาจากกาแฟระดับพาณิชย์ที่หาซื้อได้ทั่วไป ที่นามาผ่านกระบวนการผลิตในรูปแบบต่างๆ เพื่อที่จะหากาแฟแก้วที่ถูกใจที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล กล่าวคือการร่วมเดินทางไปกับผู้บริโภคเพื่อสำรวจแสวงหากาแฟแก้วโปรดไปพร้อมกับผู้บริโภค รายได้หลักของธุรกิจมาจากการบริการ เครื่องดื่มทั้งโดยบาริสต้าและรูปแบบทำเอง (DIY) รวมไปถึงคอร์สชิมกาแฟที่เป็นบริการพิเศษของทางร้านกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักของ คอนค็อคชั่น คอฟฟี่ เจอร์เน่ ได้แก่กลุ่มคน Generation X และ Y ที่ให้คุณค่ากับคุณภาพของเครื่องดื่มกาแฟ และมีแนวโน้มที่เข้าใช้บริการร้านกาแฟเปิดใหม่ชื่นชอบที่จะทดสอบทดลองสิ่งใหม่ๆ และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายรองของ คอนค็อคชั่น คอฟฟี่ เจอร์เน่ ได้แก่ บุคคลธรรมดาทั่วไปในทุกช่วงวัยที่มีการบริโภคกาแฟเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ผู้จัดทำได้วางแผนเอาไว้ว่าจะเริ่มการก่อสร้างอาคาร และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2566 โดยได้มีเป้าหมายในการเติบโตของรายได้อยู่ที่ร้อยละ 10 ต่อปี เพื่อขยายประเภทการให้บริการ และศักยภาพในการรองรับผู้เข้าใช้บริการให้มากขึ้น เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการเครื่องดื่มกาแฟที่มีศักยภาพในการผลิตเมล็ดกาแฟของตนเองเพื่อการ เติบโตของธุรกิจต่อไปในอนาคต สำหรับในส่วนของการดำเนินงานนั้น จะใช้บุคลากรทั้งหมด 3 ท่าน Operation Manager, Chief Finance Officer และ Barista โดยมี Operation Manager และ Barista เป็นผู้ดูแลกิจการหน้าร้าน ให้บริการผลิตภัณฑ์ และบริการของ คอนค็อคชั่น คอฟฟี่ เจอร์เน่ ทั้งหมด กล่าวคือบริการเครื่องดื่ม, DIY และ Discover Your Own Concoction ซึ่งร้านนั้นจะเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 06.00 น. ไปจนถึง 18.00 น. และรับออร์เดอร์ผ่านช่องทางหน้าร้าน Chat/Messenger และบริการส่ง อาหารเครื่องดื่ม ซึ่งการเข้างานนั้นจะแบ่งเป็น 2 กะ โดย Barista จะเข้าทำงานตั้งแต่ 06.00 น. จนถึง 15.00 น. และ Operation Manager จะเข้าทำงานตั้งแต่ 09.00 น. จนถึง 18.00 น. เพื่อสรุปยอดประจำวันส่งให้ Chief Finance Officer ดำ เนินการบันทึก โดย Operation Manager นั้นจะมีหน้าที่ในการจัดสรรวัตถุดิบในการดำเนินงานเข้ามาจัดเก็บที่ร้าน ในด้านการตลาดนั้น ในการดำเนินงานทั่วไปนั้นจะใช้การโปรโมตผ่านช่องทาง Social Network Platform ต่างๆ โดยจะมีการโพสต์เป็นจำนวน 1 โพสต์ทุกวัน และการว่าจ้าง Influencer เพื่อกระตุ้นให้เกิดการรับรู้ถึงร้านในกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย และในช่วงเริ่มแรกนั้นจะมีกิจกรรมกระตุ้นการเข้าใช้บริการ โดยมีการจัดกิจกรรมฉลองครบ 100 แก้ว กิจกรรมชักชวนเพื่อนเข้ามาใช้ บริการรับส่วนลด และการจัดส่วนลดพิเศษให้กับผู้อาศัยบริเวณใกล้เคียง เพื่อกระตุ้นการซื้อในส่วนของการเงินนั้น ใช้เงินลงทุนในการเปิดกิจการเป็นจำนวน 1.2 ล้านบาท โดยเมื่อคำนวณจากเป้าการขายรายวัน 50 แก้ว ด้วยราคาจำหน่ายของเมนูอเมริกาโน่ร้อนที่ 70 บาท ตัวเลขประมาณการผลตอบแทนในปีแรกจะอยู่ที่ 1,668,000 บาท หักลบต้นทุนและภาษีเป็นกำไรสุทธิที่ 384,780 บาท และได้วางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ที่ 10% ต่อปี เพื่อการก้าวสู่จุดคืนทุนภายใน 2.7 ปี โดยการลงทุนในครั้งนี้มีค่า NPV ที่ 817,241.91 บาท ค่า BC Ratio ที่ 1.47 เท่า และมีอัตรา IRR ที่ 32% ซึ่งเป็นตัวเลขที่คุ้มค่าที่จะลงทุนเมื่อพิจารณาถึงปัจจัยที่ว่าผลตอบแทนที่นำมาคำนวณนั้นมา จากสินค้าหลักที่มีมูลค่าต่า ที่สุดในร้านที่ 70 บาท คอนค็อคชั่น คอฟฟี่ เจอร์เน่ จะนาผลกำไรที่ได้จากการดำเนินงานกลับมาลงทุนเพื่อขยายศักยภาพในการให้บริการ และเพิ่มบริการใหม่ๆ ให้กับร้าน โดยเริ่มแรกด้วยการจัดทำส่วนโรงคั่วด้วยตนเองเพื่อสร้างความสามารถในการผลิตเมล็ดกาแฟคั่วสา เร็จเพื่อจัดจา หน่ายเพิ่มเติม และลดต้นทุนการว่าจ้างคั่วเมล็ดกาแฟ ก่อนดำเนินการเพิ่มขยายขนาดของร้าน และขยายจำนวนสาขาต่อไป ในอนาคต โดยในท้ายที่สุดแล้วร้านได้วางเป้าหมายเอาไว้ว่าจะมีการจัดทำสวนไร่กาแฟของตนเอง ทำ Vertical Integration เพื่อให้สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในราคาที่ดีที่สุดกับผู้บริโภคต่อไปในอนาคต