ความเครียดและภาวะหมดไฟของการทำงานที่บ้านในช่วงโควิด-19 ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานบริษัท ในเขตกรุงเทพมหานคร

Abstract

งานวิจัยคร้ังนี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาความเครียดและภาวะหมดไฟของการทำงานที่บ้านในช่วงโควิด-19 ที่ส่งผลต่อ ประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานบริษัท ในเขตกรุงเทพมหานคร เป็นงานวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) โดยใช้วิธีการวิจัย เชิงสำรวจ (Survey Research) เป็นการสุ่มตัวอย่างที่เป็น Non-probability แบบสะดวก (Convenience Sampling) ซึ่งประชากรในงานวิจัยนี้ คือ พนักงานบริษัทที่ทำงานที่บ้าน ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 385 คน โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูล และทำการทดสอบสมมติฐานด้วยการวิเคราะห์ความถดถอยพหุ (Multiple Regression Analysis) โดยกำหนดค่านัยสำคัญทางสถิติไว้ที่ 0.05 ผลวิจัยพบว่า ความเครียดในด้านบทบาทหน้าที่ในงานและภาวะหมดไฟด้านความอ่อนล้าทางอารมณ์ ส่งผลเชิงลบต่อ ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานบริษัท ท้ังนี้อาจเป็นเพราะองค์กรไม่ได้กำหนดลักษณะงานที่ชัดเจนให้พนักงานทราบ การแบ่ง งานไม่เหมาะสมกับพนักงานจึงทำให้พนักงานเกิดความเครียด และองค์กรอาจต้องจัดกิจกรรมหรือมาตรการให้กับพนักงานในขณะที่ พนักงานทำงานที่บ้าน เพื่อไม่ให้พนักงานรู้สึกเบื่อหน่ายกับงานและเป็นการป้องกันภาวะหมดไฟด้านความอ่อนล้าทางอารมณ์ที่จะเกิดขึ้น ในขณะที่ความเครียดด้านลักษณะงาน ด้านโอกาสก้าวหน้าในการทำงาน ด้านสนับสนุนการทำงาน ด้านสัมพันธภาพระหว่างบุคคล และด้านความสมดุลระหว่างชีวิตทำงานและชีวิตส่วนตัว ไม่ได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน นอกจากน้ีภาวะหมดไฟในด้านความ ด้อยสัมพันธภาพกับบุคคล และด้านความรู้สึกที่ไม่ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติงาน ก็ไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของ พนักงานเช่นกัน นั่นอาจเป็นเพราะองค์กรมีนโยบายที่ดีเป็นระบบ สามารถดูแลพนักงานได้เป็นอย่างดีในขณะที่พนักงานทำงานที่บ้าน จึง ไม่เกิดความเครียดและภาวะหมดไฟด้านต่างๆดังกล่าว ทำให้ไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงาน