Sustainable Leadership : การศึกษาปัจจัยที่ทำให้องค์กรอยู่อย่างยั่งยืนของพนักงานบัญชีในองค์กรเอกชน ในเขตกรุงเทพมหานคร

Abstract

การวิจัยฉบับนี้เป็นการวิจัยเพื่อศึกษาว่าพนักงานบัญชีในองค์กรเอกชนในเขตกรุงเทพมหานครดำรงอยู่ได้โดยใช้แนวความคิด Sustainable Leadership เป็นแนวทางในการศึกษา ผลการศึกษาพบว่ามีความสอดคล้องกับแนวปฏิบัติของ Sustainable Leadership ทั้ง 23 ปัจจัย พบว่ามี 8 ปัจจัยอยู่ในระดับหลักฐานสอดคล้องกับแนวคิดมาก (Most Evident) แรงงานสัมพันธ์ (Labor relations) การตัดสินใจ (Decision making) การจัดการตนเอง (Self-management) การแบ่งปันและการรักษาความรู้ (Knowledge sharing and retention ) การทำงานร่วมกัน (Team Orientation) ความไว้วางใจ (Trust) ความผูกพันธ์ของพนักงาน (Staff Engagement ) คุณภาพ (Quality) มี 13 ปัจจัยอยู่ในหลักฐานสอดคล้องกับแนวคิดปานกลาง (Moderate Evident) การพัฒนาบุคลากร (Developing People) วัฒนธรรมองค์กร (Culture) การรักษาพนักงาน (Retaining staff) ผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder) การเปลี่ยนแปลงองค์กร (Organizational change) นวัตกรรม (Innovation)นวัตกรรม (Innovation) ตลาดการเงิน (Financial Markets orientation) การวางแผนการสืบทอด (Succession Planning) มุมมองระยะไกล้หรือระยะไกล (Long-or short-term perspective) บทบาทวิสัยทัศน์ในธุรกิจ (Vision’s role in the business) และ ประธานบริหารและทีมผู้บริหาร (CEO and Top team) มี 2 ปัจจัยที่มีหลักฐานสอดคล้องกับแนวความคิดน้อยหรือไม่มีเลย (Least Evident) และไม่พบว่ามีปัจจัยที่ไม่สามารถระบุได้ (Unidentified) ดังนั้นมีการใช้ภาวะผู้นำมาปฏิบัติแนวในทางที่นำไปสู่ความยั่งยืนโดยสอดคล้องกับแนวคิด Sustinable Leadership ซึ่งทำให้พนักงานบัญชีสามารถดำรงอยู่ในองค์กรได้