Please use this identifier to cite or link to this item: https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/5802
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
eperson.contributor.advisorตรียุทธ พรหมศิริ-
dc.contributor.authorบุษกร ขุมทรัพย์-
dc.date.accessioned2025-05-12T04:29:52Z-
dc.date.available2025-05-12T04:29:52Z-
dc.date.issued2567-
dc.identifier.otherTP EM.017 2567-
dc.identifier.urihttps://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/5802-
dc.description81 แผ่นen_US
dc.description.abstractงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเลือกใช้แชมเปญของธุรกิจแบบ B2B และ B2C ในประเทศไทย โดยมีการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ คู่แข่งในผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแชมเปญ แนวโน้มส่วนแบ่งตลาดนำเข้าไวน์ในประเทศไทยในอีก 10 ปี ข้างหน้า ซึ่งพบว่าการนำเข้าไวน์และแชมเปญจากฝรั่งเศสมีการเติบโตที่ดี แต่ยังมีความท้าทายด้านกฎหมายการโฆษณาเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ และการเพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับแชมเปญกับผู้ดื่มไวน์ในประเทศไทย ผู้วิจัยตั้งสมมติฐานแรกเริ่มว่าแชมเปญเบอร์แจร์เริ่มต้นด้วยราคาที่จับต้องได้และรสชาติดี จึงมุ่งหวังว่าควรมุ่งไปที่ตลาด B2B ร้านอาหาร และโรงแรม แต่เมื่อเข้าสู่การทำการวิจัย พบว่าในการขายแชมเปญแบบส่งต่อร้านอาหาร โรงแรม B2B ยังต้องใช้แชมเปญที่มีภาพลักษณ์ ลูกค้ายังติดแบรนด์ที่รู้จัก เพราะพฤติกรรมการเลือกดื่มนั้นต่างจากการเลือกซื้อแชมเปญเพื่อดื่มเองที่บ้านแบบ B2C ซึ่งต้องการรสชาติและราคาที่ถูกใจไม่คำนึงถึงแบรนด์และภาพลักษณ์มากเท่าการเลือกแชมเปญใน B2B ผู้วิจัยจึงนำผลวิจัยที่ชี้ว่าตลาด B2C เลือกแชมเปญโดยคำนึงถึงภาพลักษณ์น้อยที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับแชมเปญเบอร์แจร์ซึ่งเป็ นแชมเปญนำเข้าแบรนด์ใหม่ ราคาเอื้อมถึงในหลายกลุ่มเป้าหมาย แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าแชมเปญเจ้าตลาด จากผลการวิจัยแผนการตลาดเปลี่ยนเป็นมุ่งไปที่ตลาด B2C อย่างต่อเนื่องจนติดตลาดและ เป็นที่รู้จักดีในตลาดผู้ดื่มไวน์และแชมเปญแล้ว ผู้วิจัยมุ่งหวังว่าการทำการตลาดในระยะยาวจะขยาย การรับรู้ไปถึง ผู้ประกอบการ B2B และส่งผลให้แชมเปญเบอร์แจร์ได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นในตลาด B2B ในประเทศไทยด้วย ซึ่งจากผลวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่าการทำการตลาดทั้งแบบออฟไลน์และ ออนไลน์นั้นหากนำจุดเด่นและเอกลักษณ์ของแชมเปญเบอร์แจร์ออกมาได้ตรงกลุ่มเป้าหมายทั้ง B2B และ B2C จะทำให้ขยายตลาดในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน แผนการตลาดตั้งแต่ปี 2024 – 2028 รวม 5 ปี ใช้เงิน 3,200,000 บาท โดยเป็นเงินจากกำไรสะสม โดยภายใน 5 ปี ของการทำการตลาดนี้จะมี NPV ของธุรกิจรวมอยู่ที่ 5,281,000 บาท อัตราผลตอบแทนการลงทุน (IRR) ร้อยละ 135 และคืนทุนภายใน 2 ปีen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยมหิดลen_US
dc.subjectภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรมen_US
dc.subjectB2Ben_US
dc.subjectB2Cen_US
dc.subjectแชมเปญเบอร์แจร์en_US
dc.titleแผนการตลาดแชมเปญเบอร์แจร์ในตลาดประเทศไทยen_US
dc.typeThesisen_US
Appears in Collections:Thematic Paper

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
TP EM.017 2567.pdf3.1 MBAdobe PDFThumbnail
View/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.