Please use this identifier to cite or link to this item: https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/871
Title: การศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ของธุรกิจ Dr.Math & Toys ของเล่นไม้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์พร้อมคู่มือสาหรับเด็กปฐมวัยอายุ 3-5 ปี
Authors: สิริกร ตั้งชัยกิจ
Keywords: Entrepreneurship Management
ธุรกิจ
ความเป็นไปได้
ของเล่นไม้
Dr.Math & Toys
Issue Date: 15-May-2014
Publisher: มหาวิทยาลัยมหิดล
Citation: 2557
Abstract: เนื่องจากธุรกิจของครอบครัวคือ สานักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จากัด เป็นบริษัทที่ผลิตสื่อการเรียนการสอน เช่น หนังสือเรียน ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ และแบบฝึกหัด ที่ใช้ประกอบการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ และตรงตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่ระดับอนุบาลศึกษา ประถมศึกษา ถึงระดับมัธยมศึกษา ที่ได้รับความเชื่อถือ และได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั้งโรงเรียนของรัฐบาล และเอกชนทั่วประเทศมายาวนานกว่า 30 ปี และเพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจด้านการศึกษาในการผลิตสื่อการเรียนการสอนที่มีคุณภาพและครบวงจร ซึ่งจะส่งผลไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาและมาตรฐานการศึกษารวมทั้งการเพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ของเยาวชนไทยให้มีโอกาสได้เข้าถึงสื่อการเรียนรู้ทุกรูปแบบทั้งในและนอกห้องเรียนตามวัยและพัฒนาการของผู้เรียนอย่างมีคุณภาพ และเต็มศักยภาพตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน และยังมีบริษัทในเครืออีก 2 บริษัทคือบริษัท คิดส์แอนด์ทอยส์อินดัสตรี้ (ประเทศไทย) จากัด ซึ่งเป็นโรงงานที่ผลิตของเล่นไม้ รวมถึงผลิตสื่อการเรียนการสอนที่ทาจากวัสดุประเภทไม้ยางพารา ที่ได้รับความน่าเชื่อถือในด้านคุณภาพของสินค้า ทั้งภายในและภายนอกประเทศมายาวนานกว่า 20 ปี และบริษัท สานักพิมพ์ เวิลด์คิดส์ จากัด เป็นบริษัทที่ทาการผลิตสื่ออิเล็กทรอนิกส์สาหรับใช้ประกอบการศึกษาทุกระดับชั้น ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ตั้งแต่ระดับอนุบาลศึกษา ประถมศึกษา และมัธยมศึกษาที่เน้นทักษะกระบวนการคิดเน้นความสอดคล้องกับพัฒนาการของผู้เรียนครบทุกด้านตรงตามมาตรฐานและหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ และจากปัญหาที่พบในปัจจุบันคือ ผลการประเมินการทดสอบ Programmer for International Student Assessment (PISA) ทั้งด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการอ่าน ในปีพ.ศ. 2552 พบว่าเด็กไทยมีผลการประเมินต่ากว่าค่าเฉลี่ยนานาชาติทุกวิชาจัดอยู่ในอันดับที่ประมาณ 48 - 52 จาก 65 ประเทศและห่างไกลจากประเทศเอเชียอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มคะแนนสูงนักเรียนไทยเกินครึ่ง รู้เรื่องคณิตศาสตร์ต่ากว่าระดับพื้นฐาน และที่รู้เรื่องสูงกว่าระดับพื้นฐานมีเพียงหนึ่งในห้าเท่านั้น ผลการประเมินดังกล่าวใกล้เคียงกับผลในปีพ.ศ. 2549 แต่มีแนวโน้มต่าลงตั้งแต่ปีพ.ศ. 2546 เป็นต้นมา และปัญหาในปัจจุบันด้านเทคโนโลยีที่มีผลกระทบเชิงลบต่อพัฒนาการทางสมองเด็ก มีงานวิจัยจานวนมากที่ไม่สนับสนุนให้เด็กอยู่กับเทคโนโลยีมากเกินไปอย่างน้อยในวัยที่ต่ากว่า 15 ปี เนื่องจากพฤติกรรมการนั่งจ้องหน้าจอเป็นเวลานานๆ ไม่ส่งผลดีต่อสายตาของเด็ก และตาถือเป็นอวัยวะเดียวกับสมอง การอยู่กับเทคโนโลยีมากทาให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ เพราะการเก็บสายตาให้ล็อคไว้ในที่แคบ ๆ เช่น จอของแท็บเล็ต หน้าจอของมือถือ ไอโฟน หรือหน้าจอของโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ เป็นพื้นที่ที่แคบเกินไปสาหรับการใช้ตาของมนุษย์ ซึ่งในระยะยาว ส่งผลถึงการผิดปกติต่างๆ ของสมอง อีกทั้งข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาการของเด็กปฐมวัยอายุ 3-5 ปี ที่ได้กล่าวว่า เด็กไทยในปัจจุบันมีปัญหาทางด้านวิขาคณิตศาสตร์ วิชาภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ซึ่งข้อมูลนี้ทราบมาจาก สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และของเล่นของเด็กปกติกับเด็กพิเศษจะเหมือนๆกัน แต่ต่างกันตรงที่ "วิธีการเล่น" ขึ้นอยู่กับความบกพร่องของเด็กแต่ละกลุ่ม แต่ละประเภท, วิธีการสอนตั้งแต่เด็กเริ่มเข้าเรียนในชั้นอนุบาลจะต้องมีวิธีการสอนที่ถูกต้องตามหลักทฤษฎี ซึ่งในปัจจุบันคุณครูจานวนน้อยมากที่รู้หลักวิธีการสอนที่ถูกต้อง อย่างการเรียนรู้ของเด็กเริ่มต้นเด็กจะต้องมีการเรียนรู้จากรูปธรรมเป็นนามธรรมก่อนเพราะนี่คือธรรมชาติของเด็ก ข้อมูลดังกล่าวยังเป็นตัวที่บ่งชี้เรื่องการเรียนการสอนด้วยวิธีใดถึงจะทาให้เด็กมีการรับรู้เป็นไปตามลาดับขั้นของการเรียนรู้ในแต่ละพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย การที่เด็กนักเรียนไทยได้คะแนนสอบที่ต่าลงนั้นเป็นผลลัพธ์ที่แสดงออกมาที่ปลายเหตุ แต่ความจริงนั้นควรแก้ที่ต้นเหตุของปัญหานั้นคือการวางรากฐานของการเรียนรู้ตั้งแต่เด็กปฐมวัย เพราะช่วงวัยนี้เป็นเวลาสาคัญที่สุดของการพัฒนาเซลล์สมอง ลาดับความคิด และยังพบอีกด้วยว่ามีปัญหาด้านวิชาการตั้งแต่เริ่มเข้าเรียน เพราะคุณครูผู้สอนไม่มีแนวทางการสอนที่ถูกต้องตามทฤษฎีต่างๆที่เข้าถึงการพัฒนาการ, การเรียนรู้, จิตวิทยาของเด็กในแต่ละวัยอย่างแท้จริง เช่น ทฤษฎีของเพียงเจต์(Piaget) ทฤษฏีรุนเนอร์ (Bruner) ทฤษฎีไวก็อตสกี้ (Vygotsky) เป็นต้น จุดแข็งของบริษัท Dr.Math & Toys ตั้งอยู่ที่ 701 ถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 คือ มีบริษัทแม่ที่เป็น สานักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จากัดที่ทาหนังสือเรียนใช้ประกอบการเรียนการสอนที่มีคุณภาพและตรงตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่ระดับอนุบาลศึกษา ประถมศึกษา ถึงระดับมัธยมศึกษา ที่ได้รับความเชื่อถือ และได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั้งโรงเรียนของรัฐบาลและเอกชนทั่วประเทศมานานกว่า 30 ปี บริษัท คิดส์แอนด์ทอยส์อินดัสตรี้ (ประเทศไทย) โรงงานผลิตของเล่นส่งออกไปยังต่างประเทศมานานกว่า 20 ปี และบริษัท สานักพิมพ์ เวิลด์คิดส์ จากัด เป็นบริษัทที่ทาการผลิตสื่ออิเล็กทรอนิกส์สาหรับใช้ประกอบการศึกษาทุกระดับชั้น ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ตั้งแต่ระดับอนุบาลศึกษา ประถมศึกษา และมัธยมศึกษาที่เน้นทักษะกระบวนการคิดเน้นความสอดคล้องกับพัฒนาการของผู้เรียนครบทุกด้านตรงตามมาตรฐานและหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ
URI: https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/871
Other Identifiers: TP EM.009 2557
Appears in Collections:Thematic Paper

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
TP EM.009 2557.pdf2.14 MBAdobe PDFThumbnail
View/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.