Please use this identifier to cite or link to this item:
https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/2319
Title: | การศึกษาความเป็นไปได้และการเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์อาหารเช้าพร้อมดื่มเพื่อสุขภาพสำหรับคนวัยทำงาน |
Authors: | ภัทรีกาญจน์ คุณาสวรรค์ |
Keywords: | ภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรม อาหารเสริม สุขภาพ อาหารเช้า วัยทำงาน |
Issue Date: | 28-Nov-2017 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยมหิดล |
Citation: | 2560 |
Abstract: | จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเมืองใหญ่ทำให้คนในเมืองต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ และทำให้พฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานที่ต้องเจอกับปัญหาในการเดินทางไปทำงาน ส่งผลให้คนในเมืองใหญ่จำนวนมากต้องงดรับประทานอาหารเช้าที่เป็นมื้อที่สำคัญที่สุด จากข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการงดอาหารเช้าของประชากรทั่วประเทศไทย มีจำนวนทั้งหมดถึง 3,843,476 คน จำแนกเป็นในกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,245,945 คน ซึ่งสัดส่วนที่งดอาหารเช้ามากที่สุดคือ คนวัยทำงานตั้งแต่อายุ 25 ปีจนถึงอายุ 59 ปี โดยให้เหตผลว่าไม่มีเวลาทาน ซึ่งก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ในทางกลับกันคนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพมากขึ้น และต้องการอาหารที่มีประโยชน์เหมาะสมต่อการดูแลสุขภาพในขณะที่ต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบมากขึ้น จากการสังเกตเห็นพฤติกรรมของผู้วิจัยพบว่าคนที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ส่วนใหญ่ถือแต่เครื่องดื่มมากกว่าถือข้าวกล่อง ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาที่พบว่าคนวัยทำงานจำนวนมากเลือกที่จะรีบออกจากบ้านเพื่อไปทำงาน และเลือกดื่มแทนการรับประทานอาหาร เพราะต้องการความสะดวกสบาย และประหยัดเวลา แต่ในทางกลับกันก็ยังคงใส่ใจในสุขภาพ และการดูแลรูปร่าง ทางบริษัทฯ จึงได้นำพฤติกรรมดังกล่าวมาพัฒนาแนวคิดผลิตภัณฑ์ Eazy Breezy อาหารเช้าพร้อมดื่ม สำหรับคนวัยทำงาน อายุ 22-35 ปี ที่ต้องใช้ชีวิตเร่งรีบ ไม่มีเวลาเตรียมอาหารเอง แต่ยังใส่ใจสุขภาพ และรูปร่าง ซึ่งช่วยให้อิ่มท้อง มีสารอาหารที่เพียงพอ และสามารถทดแทนอาหารสำหรับ 1 มื้อ โดยไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และให้ความสะดวกสบายในการดื่มด้วยนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์พิเศษในรูปแบบฝา ที่ให้ความสะดวกสบายในการดื่ม เพียงแค่ บิด เขย่าขวด และดื่มในทันที ในราคา 60 บาทต่อมื้อ โดยจำหน่ายผ่านทางออนไลน์ และตู้กดอัตโนมัติบนสถานีรถไฟฟ้า 4 สถานี ได้แก่ สถานีหมอชิต อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ศาลาแดง และอโศก ซึ่งเป็นสถานีที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุด ทางบริษัทฯ จะมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์แก่กลุ่มเป้าหมายหลักที่ใช้บริการบนสถานีรถไฟฟ้า 4 สถานีผ่านตู้กดอัตโนมัติ และกลุ่มเป้าหมายรองที่อาศัยอยู่ใน 12 จังหวัดที่มีศักยาภาพทางเศรษฐกิจ คือมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ Easy Breezy เป็นแบรนด์แรก (Top Of Mind Awareness) เมื่อนึกถึงอาหารเช้าพร้อมดื่ม หรือเมื่อต้องการควบคุมน้ำหนักควบคู่ไปกับการมีสุขภาพที่ดี การทำการตลาดของบริษัทฯจะใช้รูปแบบที่แตกต่างออกไปจากการตลาดแบบเดิมที่บริษัททั่วๆ ไปในไทยชอบทำ โดยเน้นผลลัพธ์ในแง่ของการแชร์ บอกต่อ หรือคำชมจากสังคมแบบที่ใช้ต้นทุนต่ำ แต่สามารถสร้างประโยชน์ หรือความสุขให้กับคนที่พบเห็นได้ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น Facebook, Instagram, Youtube เป็นต้น และช่องทางออฟไลน์ โดยการใช้รูปแบบ Public stunt การสร้าง Customer Relationship Management ยังรวมไปถึงการทำ Customer Experience Management (CEM) เพื่อสร้างการตอบรับที่ดีต่อแบรนด์ ซึ่งการทำตลาดที่วางแผนไว้นี้จะช่วยสร้างการรับรู้ และความเข้าใจในแบรนด์ Eazy Breezy |
URI: | https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/2319 |
Other Identifiers: | TP EM.008 2560 |
Appears in Collections: | Thematic Paper |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
TP EM.008 2560.pdf | 5.47 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.