การจัดการเชิงกลยุทธ์ของธุรกิจสปาไทยและนวดเพื่อสุขภาพภายใต้ภาวะวิกฤตโควิด =STRATEGIC MANAGEMENT FOR THE IMPACT OF COVID-19 IN HEALTH WELLNESS AND SPA THAI BUSINESS.

Abstract

อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพอย่างสปาและนวดเพื่อสุขภาพมีบทบาทสำคัญในการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งภายใต้สถานการณ์โควิดที่แพร่ระบาดส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้องค์กรขนาดใหญ่ที่อยู่ในธุรกิจสปาและผู้ประกอบการสปาและนวดเพื่อสุขภาพรายย่อยต้องปรับกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อรับมือกับวิกฤตเพื่อให้องค์กรสามารถดำเนินธุรกิจต่อได้โดยทาให้องค์กรได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด ด้วยเหตุนี้ผู้วิจัยจึงสนใจศึกษาถึงการจัดการเชิงกลยุทธ์ของธุรกิจสปาประเภทโรงแรมและรีสอร์ทสปาและธุรกิจสปาประเภทเดย์สปาและผู้ใช้บริการองค์กรดังกล่าวเพื่อนำมาวิเคราะห์กลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันให้องค์กร โดยผู้วิจัยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) นำเสนอผลวิจัยในลักษณะพรรณนาโดยใช้คำถามสัมภาษณ์เชิงลึกแบบโครงสร้างเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ผลการวิจัยพบว่าทั้งโรงแรมและรีสอร์ทสปาและเดย์สปาใช้กลยุทธ์องค์กรที่เหมือนกันคือการลดขนาดองค์กรโดยการเลิกจ้างพนักงานและมอบหมายหน้าที่อื่นให้พนักงาน แต่มีเพียงเดย์สปาที่ให้ความช่วยเหลือแก่พนักงาน และพบว่าทั้งคู่ใช้กลยุทธ์ส่วนประสมทางการตลาดเน้นด้านโปรโมชั่นเหมือนกัน ซึ่งในกลุ่มผู้ใช้บริการพบว่าโปรโมชั่นและองค์ประกอบทางกายภาพส่งผลต่อความพึงพอใจมากที่สุด รองลงมาเป็นด้านราคา, ด้านสถานที่ และด้านบุคลากร จากผลการวิจัยองค์กรประเภทโรงแรมและรีสอร์ทสปาควรจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับธนาคารเพื่อขยายตลาดใหม่ไปยังลูกค้ากลุ่ม VIP ของธนาคารและควบคุมต้นทุนวัตถุดิบโดยใช้อำนาจต่อรองกับผู้จัดหา สาหรับเดย์สปาควรจัดโปรโมชั่นและสร้างการรับรู้ถึงความคุ้มค่าของการบริการกับเงินที่จ่ายเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า