Please use this identifier to cite or link to this item: https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/3976
Title: ความสม่ำเสมอและแนวโน้มของผลตอบแทนจากการดำเนินงานของบริษัทในประเทศไทย
Other Titles: MEAN REVERSION AND PERSISTENCE OF RETURN ON INVESTMENT CAPITAL (ROIC)
Authors: วิภาดา, นิรมาณการย์
Keywords: การเงิน
ความสม่ำเสมอ
ผลตอบแทนจากการดำเนินงานของบริษัท
Issue Date: 27-Oct-2020
Publisher: มหาวิทยาลัยมหิดล
Abstract: งานวิจัยนี้ศึกษาความสม่ำเสมอและแนวโน้มการลู่เข้าสู่ค่ามัธยฐานของกลุ่มอุตสาหกรรมเมื่อระยะเวลาผ่านไป ของผลตอบแทนจากการดำเนินงานของบริษัท (Return on investment capital (ROIC)) ในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมของบริษัทที่ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้ไม่รวมกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน เงินทุนและหลักทรัพย์และกองทุน รวมอสังหาริมทรัพย์ การศึกษาครั้งนี้ใช้วิธีทางสถิติ Pearson correlation, Spearman Rank-Correlation , Goodman Kruskal Gamma, Panel Unit root test (IPS test, Fisher’s type test และ Pesaran CADF) และการหาระยะเวลาจากค่าเริ่มต้นลดลงครึ่งหนึ่ง (Half-Life) โดยใช้ข้อมูลในช่วงปี พ.ศ. 2543 – 2562 ได้จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 5,754 ปีบริษัท ผลการศึกษาพบว่า ความสม่ำเสมอของผลตอบแทนจากการดำเนินงานด้วยวิธี Pearson correlation, Spearman Rank-Correlation และ Goodman Kruskal Gamma ในช่วงระยะเวลา 1 ปี ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมีความสม่ำเสมอของผลตอบแทน จากการดำเนินงาน ในขณะที่ช่วงระยะเวลา 5 ปี และ 10 ปี กลุ่มอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ยังคงความสามารถในการรักษาความ สม่ำเสมอของผลตอบแทนจากการดำเนินงานได้ และเมื่อทดสอบด้วยวิธีแพนแนลยูนิทรูท คือ IPS test และ Fisher’s type test พบว่า ถ้าข้อมูลเป็นภาคตัดขวางที่มีอิสระต่อกัน (Cross-sectional independency) เมื่อระยะเวลาผ่านไปผลตอบแทนจากการดำเนินงานจะลู่เข้าสู่ค่ามัธยฐานของกลุ่มอุตสาหกรรม แต่เมื่อทดสอบด้วย CADF-test ซึ่งเป็นข้อมูลภาคตัดขวางที่มี ความสัมพันธ์กัน (Cross-sectional dependency) ผลตอบแทนจากการดำเนินงานของบริษัทจะไม่ลู่เข้าสู่ค่ามัธยฐานของกลุ่มอุตสาหกรรม ผลการศึกษาดังกล่าวตีความได้ว่า กลุ่มอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ มีความสม่ำเสมอของผลตอบแทนจากการ ดดำเนินงาน และจะไม่ลู่เข้าสู่ค่ามธัยฐานของกลุ่มอุตสาหกรรม ตามการทดสอบ Pesaran’s CADF-test เนื่องจากการทดสอบนี้ มีสมมุติฐานที่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ว่าข้อมูลภาคตัดขวางมีความสัมพันธ์กัน กล่าวคือ หากเกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อระบบ เศรษฐกิจโดยรวม อาจส่งผลกระทบต่อบริษัทอื่นๆด้วย นอกจากนี้งานวิจัยฉบับนี้ได้มีการทดสอบ Half life พบว่า กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมมีค่าระยะเวลาจากค่าเริ่มต้นลดลงครึ่งหนึ่งยาวนานกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ
Description: 95 แผ่น
URI: https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/3976
Appears in Collections:Thematic Paper

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
TP FM.062 2563.pdf2.13 MBAdobe PDFThumbnail
View/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.