Please use this identifier to cite or link to this item:
https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/462| Title: | การศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ของธุรกิจผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแบตเตอรี่รถยนต์แบรนด์มายแบตเตอรี่ (Mind battery) |
| Authors: | นลพรรณ ศุภรัตนลีลา |
| Keywords: | Entrepreneurship and Innovation ภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรม รถยนต์ ธุรกิจ แบตเตอรี่ |
| Issue Date: | 20-May-2014 |
| Publisher: | มหาวิทยาลัยมหิดล |
| Citation: | 2557 |
| Abstract: | บริษัท มายด์ แบตเตอรี่ (2013) จำกัด ก่อตั้งโดยนางสาวสุภาภรณ์ แตรรุ่งโรจน์ร่วมกับคณะกรรมการอีก 3 ท่านเพื่อนำเข้าและจัดจำหน่ายแบตเตอรี่จากประเทศจีน โดยมีตราสินค้า มายด์ แบตเตอรี่มีสำนักงานและศูนย์กระจายสินค้าหลักอยู่ที่พุทธมณฑลสายสองโดยลูกค้าหลักของกิจการจะแบ่งออกเป็นสองส่วนคือขายส่งและขายปลีก การขายส่งจะขายทั่วประเทศ มีลูกค้าขายส่งจำนวนทั้งสิ้น 200 รายทั่วประเทศซึ่งคาดว่าจะได้ส่วนแบ่งจากตลาดในปีแรก 2% ของมูลค่าตลาดทั้งหมดและส่วนการขายปลีกโดยการกระจายไปตามศูนย์บริการมายด์ชอป6 สาขาทั่วกรุงเทพมหานคร คาดว่าจะได้ส่วนแบ่งตลาดจากการขายปลีกทั่วกรุงเทพอยู่ที่ 2% ของมูลค่าการขายปลีกในกรุงเทพมหานคร คู่แข่งที่สำคัญของกิจการคือ PUMA , Hitachi และแบตเตอรี่นำเข้ายี่ห้ออื่น จากสถิติจำนวนรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี ทำให้คาดการณ์ได้ว่าในอนาคตของตลาดรถยนต์แบตเตอรี่มีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับแบตเตอรี่รถยนต์นั้นมีอายุการใช้งานเพียง 2 ปี จึงทำให้รถยนต์ทุกคันต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุกๆ 2 ปี ซึ่งจากข้อมูลกรมการขนส่งทางบกในปี 2556 นั้นจำนวนรถยนต์ทั่วประเทศมียอดการจดทะเบียนสะสมสูงถึง 34,624,406 ล้านคัน และ ในกรุงเทพมหานครมียอดรถยนต์จดทะเบียนสะสมจำนวน 8,216,859 ล้านคัน รถที่จดทะเบียนสะสมมากที่สุด( ธ.ค. 2555) คือ รถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งมีจำนวนถึง 696,825 คัน คิดเป็นร้อยละ 67.17 ของจำนวนรถจดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกสะสมทั่วประเทศซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายลดภาษีรถยนต์คันแรกของรัฐบาลในปี 2553 ซึ่งในอนาคตนั้นจะเห็นได้ว่าจะมีผู้ใช้รถยนต์ต้องทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์เป็นจำนวนมากเมื่อตลาดรถยนต์เติบโตเรื่อยๆ ก็เป็นผลให้ตลาดของแบตเตอรี่ก็เติบโตขึ้นเช่นเดียวกัน แต่จากการสำรวจข้อมูลพบว่ากำลังการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ในประเทศไม่เพียงพอกับปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีกำลังการผลิตเพียง 66% ของความต้องการใช้แบตเตอรี่เท่านั้น ทำให้ประเทศไทยต้องนำเข้าแบตเตอรี่จากประเทศอื่นๆถึง 34% และมีแนวโน้มในการนำเข้าที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงมองเห็นโอกาสในการนำเข้าแบตเตอรี่รถยนต์มาจำหน่ายในประเทศไทยเพื่อเติมเต็มตลาดแบตเตอรี่รถยนต์ให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยอาศัยจุดแข็งของบริษัทที่ครอบครัวอยู่ในวงการแบตเตอรี่มายาวนานถึง 45 ปี ทำให้เราได้รับความน่าเชื่อถือจากลูกค้า รวมไปถึงการมีช่องทางในการจัดจำหน่ายทั่วประเทศถึงกว่า 200 ร้านค้า |
| URI: | https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/462 |
| Other Identifiers: | TP EM.027 2557 |
| Appears in Collections: | Thematic Paper |
Files in This Item:
| File | Description | Size | Format | |
|---|---|---|---|---|
| TP EM.027 2557.pdf | 3.38 MB | Adobe PDF |  View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.