แผนธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ แพลนต์เบสต์โยเกิรต์พร้อมดื่มโปรตีนสูง ภายใต้ตราสัญลักษณ์แบรนด์ hey.

Abstract

การพัฒนาสารอาหารโปรตีนจากพืช (Plant based protein) หรือโปรตีนทางเลือก (Alternative Protein) อื่น ๆ ถูกหยิบยกขึ้นมาให้ความสำคญั เป็นลำดับต้น ๆ ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารเพื่อเตรียมรับมือกับ สถานการณ์อาหารขาดแคลน (Food shortage) ที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากการที่ ผลผลิตทางการเกษตรและการปศุสัตว์มีผลผลิตออกมาไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชากร ที่อัตราการเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสภาวะโลกร้อน ส่งผลให้สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงที่จนส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดส่งผลให้เกิดกระแสการรักษ์โลก ทำให้มีจำนวนผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมเลือกงดรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารที่มาจากสัตว์เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเชื่อว่าการงดบริโภคเนื้อสัตว์ลงในบาง มื้อ หรือไม่รับประทานเลย นอกจากจะส่งผลดีกับสุขภาพแล้ว ยังส่งผลดีต่อโลกอีกด้วยเมื่อความสนใจเพิ่มมากขึ้น ก็ทำให้ตลาดของอาหารที่ทำจาก Plant-based นั้นเติบโตขึ้นเช่นกัน คาดว่ามูลค่าตลาด Plant-based food ในไทยนั้น ปัจจุบัน มีมูลค่าราว 28,000 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะโต 10% ต่อปี เป็น 4.5 หมื่นล้านบาทในปี 2024 โดยมีนักลงทุนต่างๆ ให้ความสนใจเข้ามาพัฒนาและผลิตอาหารที่ทำจาก Plant-based ออกมาหลากหลายรูปแบบเพื่อเพิ่มทางเลือกและความ น่าสนใจให้กับผู้บริโภค แต่อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในท้องตลาดขณะนี้ยังต้องการการพัฒนาเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารที่สามารถตอบสนองความต้องการในเรื่องคุณค่าสารอาหารสำคัญที่จะขาดหายไปจาการงดรับประทานเนื้อสัตว์ เช่น กรดอะมีโนจำเป็น 9 ชนิด, กรดไขมันโอเมกา3, และวิตามินบี 12 ด้วยข้อมูลดังกล่าวผู้วิจัยจึงมองเห็นโอกาสสำหรับแผนธุรกิจเพื่อพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์แพลนต์เบสโยเกิร์ตพร้อมดื่มโปรตีนสูง ที่มีสารถอาหารจำเป็นต่อร่างกาย ครบ รสชาติอร่อย และหาซื้อได้ง่าย โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มคน Gen x และ Gen Y อายุ 25 - 55 ปี ที่รับประทานอาหารวีแกน หรือ มังสวิรัติเป็นประจำ และ ครั้งคราว และกลุ่มเป้าหมายลอง คือกลุ่มคน Gen x และ Gen Y อายุ 25 - 55 ปี ที่มีแนวคิดต้องการช่วยโลกผ่านรูปแบบ พฤติกรรมการใช้ชีวิต โดย สำหรับแผนธุรกิจของ บริษัท เฮยเ์วิร์ด จำกัด มีการประมาณการเงินลงทุนไว้ที่ 5,000,000 บาทเป็นเงินลงทุนจากเจ้าของและผู้ถื้อหุ้นรายเดียว 2,000,000 บาท และเงินกู้จากสถาบัน ทางการเงิน 3,000,000 บาท โดยลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพื่อเริ่มกิจการ 1,400,000 บาท และแบ่งเป็นเงินทุนหมุนเวียน ประมาณ 3,600,000 บาท จากการประเมินแผนธุรกิจเป็นโครงการในระยะเวลา 5 ปี คาดการว่าจะมีเงินทุนหมุนเวียน ประมาณ 24,510,000 บาท มูลค่าโครงการปัจจุบันสิทธิ (NPV) เท่ากับ53,937,500 บาท และให้อัตราผลตอบแทน (IRR) เท่ากับร้อยละ 111 สัดส่วนระหว่างมูลค่าปัจจุบันของ การแสเงินสดรับและมูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดจ่าย (Profitability Index) คือ 39.53 โดยมีระยะคืน ทุนภายและใน 3 ปี จากรายละเอียดที่ได้ทำการศึกษามานั้น ทำให้พบว่าแผนธุรกิจมีความน่าในใจและมี ความเป็นไปได้และน่าลงทุน