ผลตอบแทนและความเสี่ยงจากการลงทุนในกลยุทธ์ Dividend Play และ Market Winner โดยใช้เกณฑ์คัดกรองของโปรแกรม SETTRADE STOCK SCREENER

Abstract

งานวิจัยนี้ศึกษาผลตอบแทนความเสี่ยง และผลตอบแทนหลังปรับความเสี่ยงจากการจัดพอร์ตการลงทุน ตามเกณฑ์คัดกรองของโปรแกรม Settrade Stock Screener จากทั้ง 2 กลยุทธ์ได้แก่ กลยุทธ์ Dividend Play และ Market Winners และศึกษาผลตอบแทนจากการลงทุนในแต่ละสภาวะตลาด ทั้งสภาวะตลาดขาขึ้น สภาวะตลาดขาลง และสภาวะตลาดไม่มีทิศทาง จากผลการศึกษาผลตอบแทนรวมย้อนหลัง 19 ปี ระหว่างปี ค.ศ.2004 จนถึงปี ค.ศ.2022 พบว่ากลยุทธ์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงสุดคือกลยุทธ์ Market Winners ด้วยการลงทุนแบบถ่วงน้ำหนักเท่ากัน (Equal Weighted) โดยมีค่าเฉลี่ยผลตอบแทนทบต้นที่ 24.22% ต่อปี และกลยุทธ์ Dividend Play ที่ลงทุนแบบถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาด (Market Cap Weighted) มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานต่ำสุด 29.39% ต่อปี และกลยุทธ์การลงทุนของ Market Winners ที่ลงทุนแบบถ่วงน้ำหนักเท่ากัน (Equal Weighted) มีผลตอบแทนหลังปรับความเสี่ยง Sharpe Ratio สูงที่สุดอยู่ที่ 0.6453 ต่อปี และกลยุทธ์ Dividend play ที่ลงทุนแบบถ่วงน้ำหนักเท่ากัน (Equal Weighted) มีผลตอบแทนหลังปรับความเสี่ยง Sharpe Ratio ต่่ำที่สุดอยู่ที่ 0.2699 ต่อปี โดยเทียบกับอัตราผลตอบแทนรวมตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Total Return Index : SET TRI) ที่ให้ผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ยต่อปี 8.79% ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 29.07% ต่อปี และอัตราผลตอบแทนหลังปรับความเสี่ยง Sharpe Ratio 0.3092 ต่อปี