Please use this identifier to cite or link to this item:
https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/872
Title: | การศึกษาความเป็นไปได้ทางการเงินของธุรกิจการผลิตและการจัดจาหน่ายผลิตภัณฑ์จากชาเขียวผง ภายใต้แบรนด์ "Chama" |
Authors: | ณัฐวัฒน์ พรชัยทิพย์รัตน์ |
Keywords: | Entrepreneurship Management ชาเขียว |
Issue Date: | 15-May-2014 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยมหิดล |
Citation: | 2557 |
Abstract: | ชาเขียวยงชามะ มีแหล่งยลิตอยู่ที่ไร่ชาไทยดอยธรรม อาเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ซึ่งปลูกชาสายพันธุ์จีนและสายพันธุ์อัสสัม เดิมจะนามายลิตเป็นชาอูหลงชนิดใบ ซึ่งต้องนาไปชงกับน้าร้อนเพื่อดื่ม เพื่อต่อยอดธุรกิจเดิมให้ตอบสนองต่อพฤติกรรมยู้บริโภคในปัจจุบันที่นิยมความสะดวกสบายมากขึ้น จึงได้นาชาสายพันธุ์จีนมายลิตเป็นชาเขียวยง ซึ่งสามารถชงได้ง่ายขึ้น การต่อยอดธุรกิจนี้ทาให้ต้องศึกษาตลาดที่จะเข้าไปเพื่อหารูปแบบธุรกิจที่เหมาะสม ในภาพรวมกระแสของเครื่องดื่มชาเขียวมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้จากทั้งแนวโน้มการปลูกชาในประเทศไทย และจานวนร้านเครื่องดื่มที่ขายชาเขียวมีจานวนเพิ่มมากขึ้น รวมถึงในธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นและเกาหลี ซึ่งมีเครื่องดื่มชาเขียวไว้บริการแทบทุกร้าน นอกจากนี้ด้วยคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพในแง่ต่างๆของชาเขียว เช่น ช่วยลดไขมันในเลือด และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ก็ทาให้ยู้ที่ใส่ใจสุขภาพหันมาดื่มชาเขียวกันมากขึ้นด้วย จึงเป็นที่มาของการศึกษารูปแบบธุรกิจโดยแบ่งขอบเขตการศึกษาออกเป็นสองส่วน ได้แก่ ส่วนของการพัฒนาการยลิตและจัดส่งเป็นวัตถุดิบชาเขียวยงให้กับร้านอาหารญี่ปุ่นและเกาหลี (โดยตรงและย่านตัวแทนจาหน่าย) หรือธุรกิจแบบ B2B และส่วนของการเปิดร้านชาเขียวชงสดพร้อมเสิร์ฟในลักษณะ Kiosk หรือธุรกิจแบบ B2C ขอบเขตการศึกษาธุรกิจแบบ B2B นั้นจะศึกษาตั้งแต่กระบวนการยลิต จนถึงการเข้าสู่ตลาด โดยจากการศึกษาข้อมูลหลายๆด้าน ทาให้ได้ข้อมูลเพื่อพัฒนากระบวนการยลิต โดยใช้เทคโนโลยีการยลิตแบบยสมยสานจากเทคโนโลยีแบบจีนและแบบญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ชาเขียวยงที่มีกลิ่นหอมซึ่งเป็นเอกลักษณ์และความละเอียดของยงชาเพื่อให้ละลายน้าได้ดียิ่งขึ้น โดยที่ในขั้นตอนการยลิตเดิมนั้นมีโรงงานซึ่งใช้เทคโนโลยีการยลิตแบบจีนอยู่แล้ว เมื่อคานึงถึงต้นทุนการสร้างโรงงานเองแล้วไม่คุ้มค่าทั้งเรื่องของเงินลงทุนและระยะเวลา เพราะต้องการไปทุ่มเทกับการตลาด และการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากกว่า จึงพิจารณาใช้โรงงานยลิตเดิม แต่จะลงทุนในส่วนของเครื่องบดแบบญี่ปุ่น ซึ่งจะมีเงินลงทุนสาหรับเครื่องบดใบชาแบบเครื่องโม่หินนี้อยู่ที่ประมาณ 64,000 บาท รวมการลงทุนเพิ่มในโครงการนี้ในส่วนของ B2B เป็นจานวนเงิน 1,654,125 บาท โดยเงินทุนจะมาจากส่วนของเจ้าของจานวน 1,295,025 บาท และกู้ยืมเงินจากธนาคารอีก 359,100 บาท ส่วนของการกู้ยืมนั้นนาไปใช้สาหรับซื้อรถกระบะ ทาการประเมินการลงทุนใน 5 ปี จะมีมูลค่าปัจจุบัน (NPV) ที่ 5,978,095 บาท มีอัตรายลตอบแทนของนักลงทุนเฉลี่ย (IRR) อยู่ที่ 85.68%ใช้ระยะเวลาในการคืนทุน คือ 1 ปี 10 เดือน จากการคาดการณ์ในปีที่ 5 จะมีรายได้อยู่ที่ 13,248,000 บาท กาไรสุทธิในปีที่ 5 อยู่ที่ 3,726,654 บาท ขอบเขตการศึกษาในส่วน B2C คือการเปิด Kiosk จาหน่ายเครื่องดื่มชาเขียวชงสดพร้อมเสิร์ฟนั้น จะทาการวิจัยตลาดด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งจากยลการสารวจที่ได้จากกลุ่มเป้าหมายโดยตรงทาให้สามารถกาหนดกลยุทธ์การตลาดของตลาด B2C ได้ ทั้งเรื่องการพัฒนายลิตภัณฑ์ ช่องทางการจัดจาหน่าย และการกาหนดราคาที่เหมาะสม ซึ่งค่อนข้างสอดคล้องกันกับข้อมูลที่ได้จากการไปขายจริง และข้อมูลจากแหล่งอื่นๆที่ได้ศึกษามาแล้วก่อนหน้า จึงได้มีการตั้งเป้าหมายในการขยายสาขาไว้ในปีแรกจะเปิด 1 สาขา ในปีที่ 2 กับ 3 จะเปิดเพิ่มอีกปีละ 2 สาขา และในปีที่ 4 กับ 5 จะเปิดเพิ่มปีละ 3 สาขา รวมทั้งหมดเป็น 11 สาขา ในปีที่ 5 เพื่อให้รายได้ขยายตัวตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากส่วนของเจ้าของทั้งหมด ไม่มีการกู้ยืม จะใช้เงินลงทุนสาหรับ 1 สาขา ประมาณ 225,655 บาท ทาการประเมินการลงทุนใน 5 ปี จะมีมูลค่าปัจจุบัน (NPV) ที่ 8,370,081 บาท มีอัตรายลตอบแทนของนักลงทุนเฉลี่ย (IRR) อยู่ที่ 307.44% ใช้ระยะเวลาในการคืนทุน คือ 1 ปี 1 เดือน จากการคาดการณ์ในปีที่ 5 จะมีรายได้อยู่ที่ 25,090,560 บาท กาไรสุทธิในปีที่ 5 อยู่ที่ 5,732,684 บาท |
URI: | https://archive.cm.mahidol.ac.th/handle/123456789/872 |
Other Identifiers: | TP EM.010 2557 |
Appears in Collections: | Thematic Paper |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
TP EM.010 2557.pdf | 1.44 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.