แผนธุรกิจผลิตภัณฑ์ยาดมจากสมุนไพร ภายใต้แบรนด์ ดี๊ดี (DEE DEE)

Abstract

Ac Nielsen ได้สำรวจการตลาด "ยาดม" ของประเทศไทยมีมีการใช้ยาดมอย่างน้อย 2 หลอด ถ้าคิดเป็ นเปอร์เซ็นต์ในการใช้ 10% ซึ่งถ้าดูที่ตัวเลข Penetration Rate แล้ว พบว่าโอกาสที่ตลาดจะเติบโตมากกว่านี้มีไม่น้อย และต้องมีการทำการตลาดขยายมากยิ่งขึ้น โดยการทำการตลาดกับกลุ่ม ลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ยาดม" นับเป็นยาสามัญประจำบ้าน ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข และมีประวัติ ความเป็นมานานถึง 6,000 ปี โดยเป็ นที่รู้จักของคนไทยอย่างแพร่หลายมาตั้งแต่รัชกาลที่ 2 ตลอดมา จนถึงปัจจุบัน คนไทยอยู่คู่กับยาดมมานานตั้งแต่มีการใช้สมุนไพรเป็นยารักษาโรคต่างๆ แต่ไม่มี หลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยแน่ชัดว่าเราเริ่มใช้ยาดมกันเมื่อไหร่ หากนับตามยี่ห้อยาดมเก่าแก่ใน ประเทศไทย อย่างยี่ห้อโป๊ยเซียนก็เกิดขึ้นต้ังแต่เมื่อปี 2479 และแพร่หลายตั้งแต่นั้นมา การวิจัยนี้จึงได้ศึกษาปัจจัยทางการตลาดและปัจจัยที่มีผลต่อการซื้อผลิตภัณฑ์ยาดมของ ผู้บริโภค เพื่อได้ให้ผู้ที่สนใจในธุรกิจหรือผู้ประกอบการนำข้อมูลไปศึกษาวางแผนธุรกิจผลิตภัณฑ์ยาดมจากสมุนไพรไทย ภายใต้แบรนด์ ดีดี๊ ต่อไป